
ภาพจาก เพจคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan
สุดารัตน์ โพสต์ข้อความรำลึก 17 ปี บัตรทอง ยกย่อง นพ.สงวน ผู้คิดโครงการ ผู้อุทิศตนเพื่อต้องการเห็นคนไทยทุกคนเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างเท่าเทียมกัน
วันที่ 12 ธ.ค. 61 คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความรำลึก 17 ปี บัตรทอง พร้อมเล่าที่มา และยกย่อง นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้คิดโครงการ ว่าเป็นคุณหมอผู้เสียสละ ผู้อุทิศตนเองเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณสุข
โดยข้อความทั้งหมดมีเนื้อหาดังนี้ “12 ธันวาคม วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล 17 ปีที่คนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีนับตั้งแต่ปี 2544 ประเทศ ไทยเราได้สร้างประวัติศาสตร์ในการทำโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำเร็จ ได้รับการยอมรับ และชื่นชมขององค์การอนามัยโลก รวมทั้งระดับนานาชาติ
“17 ปีที่แล้ว ดิฉันยังจำวันนั้นได้ดี วันที่ดิฉันได้เป็นตัวแทนคนไทยไปบอกเล่าความสำเร็จของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าบนเวทีการประชุมใหญ่ขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO
“โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเกิดขึ้นได้จากความคิดและความทุ่มเทของ “หมอหงวน” นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ คุณหมอผู้เสียสละ ผู้อุทิศตนเองเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณสุข ที่ต้องการเห็นคนไทยทุกคนเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกัน
“ย้อนกลับไปเมื่อปี 2543 คุณหมอสงวนได้นำโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามาเสนอต่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะนั้นกำลังเริ่มก่อตั้ง ‘พรรคไทยรักไทย’ เพื่อให้พรรคกำหนดเป็นนโยบาย
“ซึ่งในเวลานั้นคุณหมอหงวนก็ไปนำเสนอโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้กับทุกพรรคการเมือง แต่มีเพียง ดร.ทักษิณ เท่านั้น ที่สนใจอยากผลักดันโครงการนี้ให้สำเร็จในประเทศไทย

ภาพจาก /th.wikipedia.org
“เมื่อ ดร.ทักษิณ ได้ศึกษาโครงการจากคุณหมอสงวน ก็เล็งเห็นว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนจำนวนมาก เป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมทั่วถึง และยังจะช่วยลดภาระรายจ่ายด้านการรักษาพยาบาลของประชาชน เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวไทยทั้งทางด้านสุขภาพและด้านเศรษฐกิจ
“ดร.ทักษิณ จึงนำโครงการหลักประกันสุขภาพมาเป็นนโยบายหลักของพรรคไทยรักไทย โดยใช้ชื่อเรียกสั้นๆ ว่า “โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค”
“เมื่อพรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งได้จัดตั้งรัฐบาล ก็ได้ผลักดันโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจนสำเร็จ ส่งผลให้คนไทยทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกันเรียกว่า ‘บัตรทอง’
“จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 17 ปีที่ผ่านมา โครงการหลักประกันสุขภาพ หรือ ‘โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค’ ไม่เพียงแต่ทำให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดอัตราการเจ็บป่วย เสียชีวิตจากการเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาล เพิ่มพลังพลเมืองที่มีคุณภาพให้ระบบเศรษฐกิจไทย และยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และสังคม
“มีตัวเลขในเชิงประจักษ์จากสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ทำการสำรวจ และพบว่าตั้งแต่ปีพ.ศ 2545 ครัวเรือนที่ประสบภาวะวิกฤตทางการเงินจากภาระค่ารักษาพยาบาลลดลงจาก 4.06% เหลือเพียง 2.09 % ในปีพศ 2560 และครัวเรือนที่ยากจนลง เพราะการรักษาพยาบาลลดลงจาก 1.33 % เหลือเพียง 0.29% ในปี 2560
“โครงการหลักประกันสุขภาพ หรือ ‘โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค’ จึงเป็นโครงการที่ทั่วโลกให้การยอมรับและถือว่าประเทศไทยเป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จ

ภาพจาก เพจคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan
“ตลอดระยะเวลา 17 ปี โครงการนี้ได้พิสูจน์และประจักษ์ชัดว่า ช่วยให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง ตั้งแต่การให้ โอกาสประชาชนคนไทยทุกคนได้เข้าถึงการรักษาพยาบาล ทำให้มีสุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ ไม่ต้องเดือดร้อนหรือล้มละลายเพราะค่ารักษาพยาบาล
“ดิฉันในฐานะคนทำงาน ที่เวลานั้นรับภารกิจเป็นผู้ผลักดันการดำเนินโครงการนี้ให้สำเร็จ จึงขอคารวะ และยกย่องต่อการทุ่มเทและความเสียสละของ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้คิดค้นโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและช่วยทำงานอย่างหนักจนสามารถทำให้โครงการสำเร็จเป็นประโยชน์ต่อประชาชน หากปราศจากความเสียสละ ของ นพ.สงวน โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าคงไม่สามารถสำเร็จได้ในประเทศไทย
“ขอขอบคุณ และยกย่องบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทุกท่านที่ได้เสียสละทุ่มเทการทำงานจนทำให้โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเริ่มต้นได้ด้วยความสำเร็จ และดำเนินมาจนถึงทุกวันนี้ นำมาซึ่งสุขภาพที่ดีและความมั่นคงของคนไทย
“และสุดท้ายหากปราศจากความกล้าตัดสินใจและความห่วงใยต่อพี่น้องคนไทยของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย
“ขอคารวะต่อทุกท่านที่ทำให้เกิดโครงการที่นำมาซึ่งความมั่นคงทางสุขภาพ และเศรษฐกิจของพี่น้องคนไทยอย่างยั่งยืน”
https://www.facebook.com/sudaratofficial/posts/1973498179395632









