อดีตกรรมการ กสทช. ไม่เห็นด้วย กรณีจ่อใช้มาตรา 44 ขยายเวลาจ่ายเงินค่าคลื่น 900 MHz ให้กับค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ 3 ค่าย ชี้ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทใหญ่
นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ อดีตกรรมการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ แสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ กสทช. เสนอให้ให้ ครม. ใช้มาตรา 44 ขยายเวลาจ่ายเงินค่างวดคลื่น 900 ให้กับ 3 ค่ายมือถือ ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทรู และบริษัท โทเทิล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ผ่านทวิตเตอร์ @supinya ว่า อยากให้ใช้กฎหมายปกติแก้ปัญหานี้ แล้วรับผิดชอบกับการใช้อำนาจนี้เหมือนคนอื่น ๆ ด้วย ถ้าเคยวิจารณ์คนอื่นเรื่องการเอื้อประโยชน์เชิงนโยบายต่อกลุ่มทุนมั่งคั่งก็ขอให้ตั้งสติครั้งนี้ให้มากที่สุด ก่อนจะตัดสินใจใช้อำนาจพิเศษช่วงโค้งสุดท้าย
ถ้าแน่จริงก็ใช้กฎหมายปรกติค่ะ แล้วรับผิดชอบกับการใช้อำนาจนี้เหมือนคนอื่นๆด้วย ถ้าเคยวิจารณ์คนอื่นเรื่องการเอื้อประโยชน์เชิงนโยบายต่อกลุ่มทุนมั่งคั่ง ก็ขอให้ตั้งสติครั้งนี้ให้มากที่สุด ก่อนจะตัดสินใจใช้อำนาจพิเศษช่วงโค้งสุดท้าย @armypr_news @prayutofficial https://t.co/lcdEqyGLfS
— Supinya Klangnarong (@supinya) 26 กุมภาพันธ์ 2562
“เรื่องที่น่าผิดหวังของ กสทช. มีมาก แต่เรื่องที่จะเป็นตราบาปคือการช่วยเอกชนด้านโทรคมนาคมจนเกินงามแบบนี้ ทำให้สังคมคิดว่าแล้วในระบบใบอนุญาตที่แข่งขันเสรีจะต่างอะไรกับระบบสัมปทานแบบอำนาจนิยมอุปถัมภ์ทุนนิยมอภิสิทธิ์แบบเดิม จะเป็นภาพจำ กสทช.ไปนานว่าคุณคงไม่ใช่ regulator แล้ว” นางสาวสุภิญญา กล่าว
นอกจากนี้ ยังมองว่า การจะใช้ ม.44 ช่วยยืดเวลาจ่ายค่าประมูลคลื่นมือถือที่เคาะชนะกันมาแล้วตามกติกาซึ่งเอกชนรับร่วมกัน ก็ไม่ต่างจากการออกกฎหมายแปลงสัญญาสัมปทานกิจการโทรคมนาคมในอดีต แต่การใช้อำนาจพิเศษเอื้อเอกชนจะยิ่งกว่าระบบ ‘อุปถัมภ์และอภิสิทธิ์’ เพราะตรวจสอบไม่ได้ตามหลัก Rule of Law
การจะใช้ ม.44 ช่วยยืดเวลาจ่ายค่าประมูลคลื่นมือถือที่เคาะชนะกันมาแล้วตามกติกาซึ่งเอกชนรับร่วมกัน ก็ไม่ต่างจากการออกกฎหมายแปลงสัญญาสัมปทานกิจการโทรคมนาคมในอดีต แต่การใช้อำนาจพิเศษเอื้อเอกชนจะยิ่งกว่าระบบ ‘อุปถัมภ์และอภิสิทธิ์’ เพราะตรวจสอบไม่ได้ตามหลัก Rule of Law
— Supinya Klangnarong (@supinya) 26 กุมภาพันธ์ 2562
ซึ่งการมีค่ายมือถือ 3 ราย ในตลาดก็เป็น oligopoly (ตลาดที่มีผู้ขายน้อยราย) อยู่แล้ว ถ้า กสทช. ไม่พยายามส่งเสริมให้มีรายใหม่เข้าสู่ตลาดตามหลักการแข่งขันเสรีเป็นธรรม แต่ไปช่วยผูกขาดให้รายเดิมมีอำนาจต่อรองมากขึ้น สุดท้ายเขาก็จะใหญ่ขึ้น ผู้บริโภคก็จะเป็นลูกไก่ในกำมือ
การมีค่ายมือถือ 3 รายในตลาดก็เป็น oligopoly อยู่แล้ว ถ้า กสทช.ไม่พยายามส่งเสริมให้มีรายใหม่เข้าสู่ตลาดตามหลักการแข่งขันเสรีเป็นธรรม แต่ไปช่วยผูกขาดให้รายเดิมมีอำนาจต่อรองมากขึ้น สุดท้ายเค้าก็จะใหญ่ขึ้น ผู้บริโภคก็จะเป็นลูกไก่ในกำมือ
— Supinya Klangnarong (@supinya) 26 กุมภาพันธ์ 2562
นางสาวสุภิญญา ระบุอีกว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ควรฟังมุมมองรอบด้าน ก่อนตัดสินใจ ฟังเฉพาะเอกชนค่ายมือถือที่มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นหลักคงไม่พอ ควรบอกให้ กสทช.ทำรายงานจากการทำประชาพิจารณ์เรื่องนี้ว่าจำเป็นขนาดต้องใช้ ม.44 หรือไม่อย่างไร
เรื่องใหญ่มากขนาดนี้ กระทบประโยชน์รัฐ กระทบหลักการแข่งขันเสรีเป็นธรรม กสทช.ได้ทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นสาธารณะหรือยัง ได้มีรายงานผลกระทบในแง่นโยบายสาธารณะหรือไม่ สังคมคิดอย่างไร คสช.ควรถาม กสทช.ให้เคลียร์ก่อนค่ะ @prayutofficial
— Supinya Klangnarong (@supinya) 27 กุมภาพันธ์ 2562









