
ประเด็นคือ – ศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. คดีหมิ่น 3 แกนนำเสื้อแดง และผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง
วันที่ 27 ก.พ. 2561 ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคดีดำ อ.1878/2558 พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อายุ 69 ปี อดีตเลขาธิการ กปปส. เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใด หรือให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550

ภาพวันที่ 24 ม.ค.61 ที่ศาลอาญา รัชดาฯ
จากรณีที่นายสุเทพ ปราศรัยถึงนายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. และจูงใจมิให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งคดีนี้ชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวน ประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เป็นการแสดงความเห็นทางการเมืองโดยสุจริต ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและเกิดจากการรับรู้รับทราบ จากการทำหน้าที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ผอ.ศอฉ.)ในขณะนั้น จึงไม่มีความผิดตามฟ้องโจทก์ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนยกฟ้อง ชี้เป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต

นายสุเทพ เปิดเผยว่า ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ ปี 2556 โดยประกาศตัวเป็นผู้รับใช้ประชาชน และออกมา ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณและมีผลต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ เป็นธรรมดาที่ต้องมีคนคาดคิดว่าจะทำแบบนั้นแบบนี้
“ช่วงชีวิตที่เหลือจะอุทิศเวลาในการรับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์, ศาสนา และประชาชนเท่าที่จะทำได้ ไม่คิดหันไปเล่นการเมืองอีก ไม่ร่วมรัฐบาลกับใคร ไม่เป็นนักการเมือง ไม่เป็นลงสมัคร ส.ส. อย่างแน่นอน” นายสุเทพ ยืนยันอย่างหนักแน่น









