อนุชา ลงพื้นที่ตรวจตลาดประตูเชียงใหม่ เชื่อมั่นจะขยายต่อโครงการคนละครึ่ง-เราชนะ ขอประชาชนร่วมมือเว้นระยะห่าง ล้างมือสวมหน้ากาก ร่วมกิจกรรมสงกรานต์ตามประเพณี งดรวมกลุ่ม ป้องกันเกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์

วันที่ 20 มี.ค. 2564 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจตลาดประตูเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามโครงการคนละครึ่งและเราชนะ โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวหลังจากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้า พบว่ามีปัญหาเรื่องระบบแอปพลิเคชันขัดข้อง แต่โดยรวมแล้วพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนชื่นชมรัฐบาล ว่าโครงการนี้ มีเสียงตอบรับว่าทำให้การค้าขายดีขึ้น ประชาชนมาจับจ่ายซื้อของ เกิดการหมุนเวียนจำนวนเงิน ทำให้มีรายได้เพิ่มจากเดิมมากขึ้น โดยพ่อค้าแม่ค้าได้เสนอให้เพิ่มระยะเวลาการใช้วงเงินในโครงการให้ไวขึ้นกว่าเดิม เพราะมีประชาชนมาใช้จ่ายตั้งแต่เช้าทำให้เสียโอกาสไม่สามารถใช้วงเงินได้ ต้องรอเวลา 06.00 น. ซึ่งตรงนี้จะได้นำข้อคิดเห็นไปเสนอต่อไป สำหรับการต่อโครงการฯ นั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้สานต่อโครงการที่ประสบความสำเร็จเกิดประโยชน์ต่อประชาชน เชื่อว่ารัฐบาลจะสานโครงการต่อไปอย่างแน่นอน
ขณะที่มติ ศบค. ที่ออกมาว่า ไม่ให้มีการสาดน้ำ ประแป้งในเทศกาลสงกรานต์ แต่เป็นการรดน้ำดำหัว จัดกิจกรรมพิธีตามประเพณีได้เท่านั้นจะต้องกำชับประชาชนอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะต้องมีการเว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงจะต้องระมัดระวังในการรวมกลุ่มกัน เพราะการรวมตัวกันทำกิจกรรมจำนวนมากอาจจะทำให้เกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์ขึ้นได้จึงต้องระมัดระวัง เมื่อสถานการณ์โควิดถือว่าเบาบางลงรัฐบาลจึงผ่อนคลายมาตรการให้สามารถจัดกิจกรรมสงกรานต์ได้เพียงแต่ไม่ให้สาดน้ำประแป้งแต่ดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ ตามประเพณีได้ โดยขอไม่ให้มีการรวมกลุ่มกันเป็นคนหมู่มาก เช่น การสรงน้ำพระ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว วัด ที่อยู่ในกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กำชับเป็นพิเศษเรื่องการจัดกิจกรรมแบบ New Normal พร้อมกันนี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนประชาชนให้ออกมาท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ทำบุญตามประเพณี
ส่วนบทลงโทษ ถ้าหากมีการฝ่าฝืนเล่นน้ำและประแป้ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่าให้เป็นไปตามบทลงโทษของกฎหมายตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ เชื่อว่าถ้าทุกคนรักษาตามมาตรการที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัด รวมถึงมาตรการของรัฐบาลถือว่าเพียงพอแล้ว ขออย่าเป็นกังวลร่วมมือกันเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้










