
ภูมิใจไทย ยังรอผลเลือกตั้งทางการก่อนตัดสินใจร่วมรัฐบาลฝั่งไหน “อนุทิน” เผย ทุกพรรคที่ผ่านการเลือกตั้งแล้วล้วนเป็นประชาธิปไตยทั้งสิ้น ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นเพราะเหมาะสมไม่ใช่เขาโยนมาให้เพื่อเป็นทางออกแล้วไปรับ เป็นสิ่งไม่สมควร
วันที่ 29 เม.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พรรคภูมิใจไทย ครั้งที่ 1/2562 ระบุว่า วันนี้ตนได้ทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคให้เดินหน้าทำงานในพื้นที่ ไม่ตอบโต้เรื่องการเมือง เพราะอยู่ในห้วงพิธีสำคัญ และยังต้องรอการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังวันที่ 9 พ.ค. เราจึงจะคุยกันว่าจะเดินหน้ากันอย่างไรต่อ ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ พรรคมีหน้าที่สร้างความนิยมให้กับคนในพื้นที่

ส่วนเรื่องจุดยืนการร่วมรัฐบาลที่มีการแบ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายสืบทอดอำนาจ นายอนุทิน กล่าวว่า ใครก็ตามที่ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ถือว่ามีความเป็นประชาธิปไตยแล้ว การจะไปร่วมกับใครเราไม่ได้ดูว่าอยู่ฝั่งไหน แต่เราจะไปร่วมกับพรรคที่เราสามารถทำงานร่วมด้วยได้ ต้องเห็นประเทศ และประชาชนเป็นหลักชัย เราไม่เป็นพรรคแกนนำต้องรู้จักสถานะตัวเอง
สำหรับกระแสเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่มีใครรู้ดีกว่าตนเอง เป็นการคาดการณ์ไม่มีใครมาเสนออะไรให้ เราเป็นพรรคที่ 5 ต้องให้พรรคเบอร์ 1 เบอร์ 2 ตั้งรัฐบาลก่อน ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตนยืนยันว่าไม่รับ คนเราต้องได้ในสิ่งที่สมควรได้ ไม่ใช่เขาโยนอะไรมาก็รับหมด ถามว่าอยากเป็นนายกรัฐมนตรีไหม ตอบว่าอยากเป็น แต่จะเป็นได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องเพราะมีปัจจัยอื่นๆ อีก

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่หาเสียงไว้ด้วยว่า พรรคต้องการเข้าสภาเพื่อไปทำงานทันที นโยบายของพรรคทั้งเรื่อง GRAB เรื่องกัญชา เรื่อง กยศ. ล้วนไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ความต้องการของเรา เราต้องการเข้าไปทำงานทันที ทำได้เร็ว ทำได้เลย ตามที่เราหาเสียงไว้ ขณะที่เงื่อนไขการร่วมรัฐบาลกับพรรคใด พรรคแกนนำนั้นต้องรับทุกนโยบาย เพราะพรรคไม่ได้มีเพียงนโยบายกัญชาเสรีอย่างเดียว
ส่วนกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ปลดล็อกเรื่องกัญชา ถือเป็นความหวังดีของท่าน ส่วนพรรคจะพูดคุยกันอีกรอบ









