
แม้ราคาปาล์มดิบ ไม่ถึง 2 บาท/กก. ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนผลิต แต่เจ้าของสวนปาล์มยังนำผลปาล์มดิบออกขายลานเท ทั้งที่รู้ว่าขาดทุน เกษตรกลายคน บอกว่า จำเป็นต้องหาค่าใช้จ่ายและกังวลว่า ช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ อาจไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์การเรียนให้บุตรหลาน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ
วันนี้ (27เม.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่นิคมสหกรณ์ปลายพระยา จำกัด อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ เปลี่ยนป้ายราคารับซื้อผลปาล์มกิโลกรัมละ 1.60 บาท ซึ่งลดลงจากเมื่อวานนี้ 20 สตางค์ สร้างความหนักใจแก่เกษตรกรเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ หลังราคาลดลงต่อเนื่อง

เจ้าของสวนปาล์มที่นำผลปาล์มดิบขายให้ลานเทและนิคมสหกรณ์ปลายพระยา บอกว่า ราคาที่ดิ่งลงต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรหนักใจ เนื่องจากราคาที่รับซื้อ เป็นราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ซึ่งตกอยู่ที่เกือบ 4 บาท/กก. การนำผลปาล์มไปขายแต่ละครั้งขาดทุนต่อเนื่อง แต่เกษตรกรจำเป็นต้องขาย เพราะต้องหารายได้จุนเจือครอบครัว
ยิ่งใกล้ช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ยิ่งสร้างความหนักใจให้ผู้ปกครอง เนื่องจากยังไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์การเรียนให้บุตรหลาน จึงต้องการให้รัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือผู้ปกครอง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ส่วนจังหวัดตรัง เจ้าของแปลงเพาะกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ริมถนนตรัง – สิเกา ซึ่งเป็นแปลงเพาะกล้าพันธุ์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรัง ก็ได้รับผลกระทบ หลังต้นกล้ากว่า 1 แสนต้นที่เพาะขาย ไม่มีลูกค้ารับซื้อ ทำให้ขาดทุนเกือบ 20 ล้านบาท












