ประเด็นคือ – เกษตรกรเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนนกและสาหร่ายพวงองุ่
วันที่ 18 เมษายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 377 ม.8 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นายจิรวุฒิ วงศ์เทพวณิชย์ เกษตรกรเพาะเลี้ยง สาหร่ายพวงองุ่นและสาหร่ายขนนกส่งขายราคาสูง เนื่องจากสามารถนำไปทำอาหารได้หลายเมนู และเป็นเมนูสำหรับคนรักสุขภาพ ซึ่งในปัจจุบันนิยมกินกันอย่างแพร่หลาย
สำหรับสาหร่ายพวงองุ่น ขายส่ง กิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนราคาตามท้องตลาด กิโลกรัมละ 350 บาท แบ่งขายเป็นกล่องขนาดละ 1 ขีด ขีดละ 35 บาท ส่วนสาหร่ายขนนก ขายส่งราคากิโลกรัมละ 100 บาท และในตลาดท้องตลาด กิโลกรัมละ 170-200 บาท แบ่งขายเป็นกล่องกล่องละ 35 บาทเช่นกัน พร้อมกับมีน้ำจิ้มเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทำเอง แถมให้ในกล่องอีกด้วย
ด้านนายจิรวุฒิ วงศ์เทพวณิชย์ เกษตรกรเพาะเลี้ยง กล่าวว่า สำหรับสาหร่ายขนนกเป็นสาหร่ายพื้นถิ่นทางฝั่งอันดามัน นำมาเลี้ยงในกระชังเพื่อง่ายต่อการขายให้ลูกค้าได้ตลอดทั้งปี ส่วนสาหร่ายพวงองุ่นซื้อพันธุ์มาจากจังหวัดเพชรบุรีและได้นำมาเพาะเลี้ยงใช้เวลาประมาณ 4 เดือน พอได้ขนาด 3 นิ้วขึ้นไปก็สามารถนำมาขายได้ เวลาเก็บขายจะต้องนำมาพักไว้ 1 สัปดาห์ เปลี่ยนน้ำทุกวันและใส่ออกซิเจนเพื่อล้างตะกอนออก
สำหรับตัวสาหร่ายพวงองุ่นขายส่ง กิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งผู้รับซื้อก็จะนำไปขายต่อในราคากิโลกรัมละ 350 บาท ส่วนสาหร่ายขนนก ขายส่งกิโลกรัมละ 100 บาท เพื่อขายต่อกิโลกรัม 170-200 บาท ส่วนรสชาติ สาหร่ายพวงองุ่นจะมีรสชาติไม่เค็ม จะรับประทานได้กับอาหารทุกประเภท นำไปทำได้หลายเมนู ส่วนสาหร่ายขนนกจะมีความเค็มกว่า เน้นรับปะทานกับอาหารรสเผ็ดหรืออาหารภาคใต้เป็นผักพวกเครื่องเคียงกินกับขนมจีน
โดยมั่นใจได้ว่าปลอดภัยไม่มีสารพิษแน่นอน เนื่องจากเลี้ยงในน้ำทะเลไม่ต้องใส่ปุ๋ย ซึ่งวิธีเก็บรักษาหากไม่ควรใส่ตู้เย็น เพราะสาหร่ายจะกลายเป็นน้ำทันที ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง หากสาหร่ายมีการคายน้ำควรเทน้ำทิ้ง ซึ่งทดลองแล้วว่าเก็บไว้ 7 วัน สาหร่ายก็ไม่เน่าเสีย
สามารถส่งขายได้ทั่วประเทศ มีรายได้อยุ่ที่ 1,000 บาทต่อวัน ซึ่งตลาดหลักก็คือขายตามโรงพยาบาลเน้นคนรักสุขภาพ ซึ่งจากการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาพบว่าสาหร่ายขนนกและสาหร่ายพวงองุ่น อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น ไอโอดีน แมกนีเซียม แคลเซียม โปแทสเซียม เหล็ก มีกรดอะมิโนจำเป็นหลายชนิดที่พืชบกไม่มี มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีเส้นใยสูง ไขมันต่ำ และไม่มีคอเลสเตอรอล จึงบริโภคได้ทุกเพศทุกวัย หรือแม้แต่ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิต ทั้งยังมีการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สปาอีกด้วย
