เจ๋ง ! ธุรกิจการแชร์จักรยาน “ไบค์แชร์” นำร่องขยายตลาดในไทย

เจ๋ง ! ธุรกิจการแชร์จักรยาน “ไบค์แชร์” นำร่องขยายตลาดในไทย

ประเด็นคือ – ธุรกิจประเภท “แชริ่ง” ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ และไม่ได้จำกัดแค่การเดินทางโดยรถยนต์อีกต่อไป หนึ่งในนั้นคือ “ไบค์แชร์” หรือธุรกิจการแชร์จักรยาน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในจีน ส่วนประเทศไทยไม่น้อยหน้า เพราะมี 3 ค่ายใหญ่ ที่กำลังเข้ามาทำตลาด

วันที่ 6 พ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โมเดลธุรกิจของไบค์แชร์จะเป็นจักรยานอัจฉริยะ มีการติดตั้งระบบ GPS ที่ทำการค้นหาจักรยานที่ใกล้ที่สุด ซึ่งการใช้งานทุกขั้นตอนทำบนสมาร์ทโฟน ผ่านแอปพลิเคชั่นและคิวอาร์โค้ด มีการคิดราคาค่าบริการเป็นระยะเวลา และชำระเงินผ่านอีเพย์เมนต์ ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการต่างชาติ 3 ราย ที่พร้อมเข้ามาทำตลาดในไทย ได้แก่ โมไบค์ (Mobike) และ โอโฟ (ofo) จากจีน รวมถึง โอไบค์ (oBike) จากสิงคโปร์ ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ เน้นกลุ่มผู้ใช้งานในสถานศึกษาและมหาวิทยาลัย ซึ่งบุคลากรในสถานศึกษาเป็นกลุ่มที่มีความต้องการใช้งานจักรยานสูง โดย บริษัทให้คำปรึกษาด้านธุรกิจในจีน คาดการณ์ว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า ตลาด Bike Sharing จะมีมูลค่าเพิ่มสูงกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ กว่า 116,000 ล้านบาท

ผู้จัดการทั่วไป โอโฟ (ofo) ประเทศไทย เผยว่า ตลาด Bike Sharing ในไทย เป็นตลาดใหม่ และ ยังมีความไม่พร้อม เช่น ระบบสาธารณูปโภค นอกจากนี้ สภาพอากาศยังร้อน และมีฝนแต่หลังจากทดลองในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ปรากฎว่า ผลตอบรับดีเกินคาด แต่ Bike Sharing ยังเป็นเรื่องใหม่ในไทย จึงทำให้ผู้ใช้งานบางคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับบริการนี้

ปัจจุบัน โอโฟ มีจำนวนจักรยานในไทยมากกว่า 5 พันคัน จอดอยู่ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 3,800 คัน และ จังหวัดภูเก็ต 1500 คัน ทั้งนี้ นักศึกษาธรรมศาสตร์ อาจารย์และบุคลากรในมหาวิทยาลัย มียอดผู้ใช้งานต่อวันสูงติดอันดับต้นๆ จากสถิติการใช้งานจักรยาน ofo ในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก

นอกจากลดมลภาวะทางอากาศแล้ว หากแนวคิดการใช้จักรยานขยายตัวมากขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะในพื้นที่มหาวิทยาลัย มีระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับ ก็จะช่วยลดปริมาณรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บนท้องถนนได้ แม้กรุงเทพฯ ได้ตีเลนขับขี่จักรยานอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2551 แต่ ไบค์เลน (Bike Lane) ก็ไม่เป็นที่นิยม แม้ถูกปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมอีกครั้งในปี 2558

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง