
ประเด็นคือ – ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ประเมินว่าจำนวนคอนโดมิเนียมยังไม่ล้นตลาด เเต่มีความเสี่ยงเกิดภาวะฟองสบู่
วันที่ 14 พ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจตลาดอาคารชุดพักอาศัย หรือคอนโดมีเนียมใจกลางเมืองและตามเเนวรถไฟฟ้า ใน โครงการที่สร้างเสร็จในระยะ 6 เดือน แต่ไม่เกิน 3 ปี พบว่า มีกว่า 268 โครงการ หรือกว่า 117,250 หน่วย ขายได้แล้วกว่าร้อยละ 91 หรือ 107,096 หน่วย
ซึ่งสะท้อนว่าไม่กระทบกับนักพัฒนาที่ดิน หรือไม่เกิดปัญหาคอนโดมีเนียมล้นตลาด เพราะในจำนวนนี้ กว่าร้อยละ 61 มีผู้เข้าอยู่แล้วกว่า 71,864 หน่วย ชี้ว่ามีการครอบครองเเล้วภาวะตลาดยังดีพอสมควร ขณะที่ส่วนใหญ่ผู้ซื้ออยู่อาศัยเอง บางส่วนอาศัยโดยผู้เช่า สะท้อนว่ายังมีภาวะเก็งกำไรต่ำ

อย่างไรก็ตาม นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ระบุว่า ในปีนี้มีจำนวนคอนโดมิเนียมสร้างใหม่มีปริมาณมากที่สุดในรอบ 23 ปี
โดยขณะนี้ มีบางโครงการ สามารถขายได้ ในเวลา 1 วัน ซึ่งเห็นสัญญาณว่าอาจเป็นนักเก็งกำไรที่ต้องการ รอขาย หรือ รอปล่อยเช่า ดังนั้นหากปล่อยให้ปัญหาลักษณะเกิดขึ้น มากกเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ได้ ในระยะ 1-2 ปีนี้

ดังนั้นเสนอว่า รัฐควรมีการคุ้มครองเงินดาวน์ ของผู้ซื้อห้องชุด ตามกฎหมายพ.ร.บ.การดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา พ.ศ.2551 หรือ แอ็คโครแอ็คเค้าน์ เพื่อความมั่นใจของตลาด ทั้งผู้ซื้อผู้ขายและสถาบันการเงิน ควบคุมการเปิดโครงการใหม่ ไม่ปล่อยให้สร้างกันมากเกินไป รวมทั้งตรวจสอบราคาขายและกำไร
นายโสภณ ยังระบุอีกว่า ช่วงเวลานี้ หากดูจากจำนวนหน่วยคอนโดมิเนียม ราคา และ อัตราดอกเบี้ยถือเป็นจังหวะที่เหมาะสม









