
เจ้ติ๋ม ทีวีพูล เปิดบ้านแถลงร้องศาลปกครองขอสิทธิชดเชยตาม ม.44 แม้บริษัทจะไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับการเยียวยา ย้ำไม่เสียดายที่ยุติการประกอบธุรกิจทีวีดิจิตอล เพราะที่ผ่านมาขาดทุนหนัก
วันที่ 30 เม.ย.2562 วานนี้นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ ‘เจ้ติ๋ม’ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี จำกัด เจ้าของช่องทีวีดิจิตอล 2 ช่อง คือ ไทยทีวี และ โลก้า แถลงข่าวยืนยัการเปิดบ้านในครั้งนี้ไม่ได้ต้องการมาเรียกร้อง แต่เพียงต้องการใช้สิทธิในฐานคู่กรณีระหว่างบริษัทกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หลังจากที่มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือมาตรา 44 ซึ่งบริษัทมีสิทธิที่จะออกมาขอใช้สิทธิยืน เพื่อขอหลักเกณณ์เพื่อนำมาเทียบเคียงกับผลประโยชน์ ที่บริษัทจะได้รับซึ่งจะนำข้อมูลทั้งหมดส่งให้ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาเพิ่มเติมต่อไป

เจ๊ติ๋ม กล่าวว่า ถึงแม้บริษัทจะไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับการเยียวยา เพราะบริษัทเลิกสัญาไปแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2558 และได้ยื่นฟ้อง กสทช.เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2558 พร้อมทั้งยื่นอุทธรณ์เรียกเงินค่าเสียหายกว่า 1,134 ล้านบาท เนื่องจาก กสทช. ผิดสัญญา บริษัทจึงยืนยันจะดำเนินคดีต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุด จากการหารือมราบว่า มาตรา 44 ให้สิทธิเฉพาะผู้ถือใบอนุญาตเท่านั้นและไทยทีวี ไม่อยู่ในเงื่อนไข เพราะได้ยกเลิกใบอนุญาตไปแล้ว และไทยทีวีจะไม่ฉวยโอกาส เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่ได้สิทธิ แต่สิ่งที่ต้องคิดต่อไปเรื่องมาตรา 44 อาจไม่มีประโยชน์กับไทยทีวีทางตรง แต่ทางอ้อมสามารถใช้หลักเกณฑ์ที่คณะทำงานที่กำลังพิจารณาค่าชดเชยให้กับทีวีดิจิทัลที่ต้องการคืนช่อง มาเทียบเคียงกับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับไทยทีวีได้ สิ่งที่ต้องการรู้คือการชดเชยการคืนช่อง ที่จะออกมาช่วงสิ้นเดือน พ.ค.นี้ แต่หากคืนช่องคาดว่าจะได้เงินหลังประมูล 5G เดือนมิ.ย. 2563 ด้วยระยะเวลาที่นานดังกล่าว เชื่อว่าผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเริ่มลังเล เพราะไม่รู้ว่าจะเงินชดเชยเท่าใดแน่
นางพันธุ์ทิพา มองว่า กสทช.ควรที่จะใช้เงินจากกองทุน กทปส. ออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลภายใน 3 เดือน หากจะต้องรอให้มีการประมูลคลื่น 5G จะทำให้ทีวีดิจิทัลตายก่อนโดยได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการคืนช่อง 3 ช่อง หลังใช้ มาตรา 44 จากเดิมที่มีกระแสข่าวว่าจะคืน 5 ช่อง เพราะ กสทช. ยังไม่มีข้อมูลรอบด้าน และมีความล่าช้าในการตั้งคณะอนุกรรมการฯ ในการแก้ปัญหาทำให้ผู้ประกอบการเกิดความลังเล ตัดสินใจที่ยากมาก เพราะถ้าคืนแล้ว จะกลับมาทำธุรกิจอีกยากมาก
https://www.facebook.com/workpointgossip/videos/1942700395834483/









