
นายสุเมธ องกิตติกุล
“ทีดีอาร์ไอ” เปิดเวทีรับฟังความเห็น แนวทางปรับค่ามิเตอร์แท็กซี่ จะใช้วิธีคิดค่าโดยสารตามเวลาเดินทางช่วงรถติด ไม่อยากให้เป็นข้ออ้างไม่รับผู้โดยสารบ่อยๆ ปัญหาอาจไม่ใช่แค่เรื่องเงิน ทีดีอาร์ไอจึงเสนอใช้ระบบตัดแต้มมาปรับพฤติกรรม เป็นกลไกควบคุมให้คุณภาพบริการดีขึ้น
วันที่ 14 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมรับฟังความคิดเห็น โครงการศึกษาการพัฒนาเพื่อความปลอดภัย และคุณภาพการให้บริการของรถแท็กซี่ โดยพิจารณาโครงสร้างต้นทุนและการประกอบการ นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า จากผลสำรวจพบว่า ผู้ขับขี่แท็กซี่ในปัจจุบันมีรายได้ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำประมาณวันละ 200 – 300 บาท เนื่องจากต้องหักรายจ่ายเฉลี่ยวันละ 1,100 บาท ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องมีรายได้เฉลี่ยอย่างน้อยวันละ 1,600 บาท จึงจะคุ้มทุน
ส่วนค่าโดยสารที่เริ่มต้น 35 บาท เห็นว่าไม่จำเป็นต้องปรับขึ้น แต่ควรปรับค่าโดยสารตามระยะทางที่เดินทางจริงร่วมกับเวลารถติด ส่งผลให้เมื่อไปในพื้นที่รถไม่ติด ผู้โดยสารก็จะเสียค่าเดินทางไม่มาก แต่หากไปพื้นที่รถติด ผู้ขับรถจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะเกิดความเป็นธรรม

ด้าน นายจงรักษ์ กิจสำราญกุล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า หากจะปรับขึ้นราคาต้องทำให้แน่ใจว่าบริการจะดีขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลศึกษาโครงสร้างราคาใหม่จะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จากนั้นจะเสนอเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาและกระทรวงคมนาคมต่อไป
ส่วนการออกกฎหมายขนส่งใหม่ จะมีมาตรากำหนดให้ผู้ประกอบการเจ้าของอู่ หรือสหกรณ์แท็กซี่ ต้องเป็นผู้ประกอบการตามกฎหมายที่ขอใบอนุญาต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาขั้นสุดท้ายของ สนช.
(ภาพปกจาก: pixabay)









