
วิรไท สันติประภพ
แบงก์ชาติขอสถาบันการเงินทุกแห่ง ห้ามทำธุรกรรมหรือมีส่วนมีส่วนร่วมสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี หรือ เงินสกุลดิจิทัล ชี้ไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย มีความเสี่ยงสูง
วันที่ 12 ก.พ. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกหนังสือเวียนลงนามโดย นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึง ผู้จัดการสถาบันการเงินทุกแห่ง ขอความร่วมมือสถาบันการเงินไม่ให้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี หรือเงินสกุลดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือ Ether
คริปโตเคอเรนซีบางประเภทไม่สามารถระบุผู้ออกได้อย่างชัดเจน ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันตามมูลค่าหรือไม่มีสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งผู้ที่ต้องการทำธุรกรรมดังกล่าวสามารถทำรายการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ที่ผ่านมาราคาของคริปโตเคอเรนซีมีความผันผวนสูง ส่วนหนึ่งเกิดจากการเก็งกำไร ผู้ทำธุรกรรมจึงมีความเสี่ยงจากการขาดทุนสูง รวมทั้งไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในระยะเวลาอันรวดเร็วได้
คริปโตเคอเรนซียังไม่มีคุณสมบัติเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในประเทศไทย ไม่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานใดเป็นการเฉพาะ ผู้ทำธุรกรรมอาจไม่ได้รับความคุ้มครองตามสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้บริการทางการเงินในกรณีถูกหลอกลวงหรือเกิดปัญหาในการทำธุรกรรม
นอกจากนี้ การใช้คริปโตเคอเรนซีอาจถูกใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมายได้ เช่น การฟอกเงิน หรือการสนับสนุนการก่อการร้าย ประกอบกับการทำธุรกรรมดังกล่าว เป็นการทำผ่านระบบเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศ จำเป็นต้องคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยของระบบเป็นสำคัญ
ธปท. จึงขอความร่วมมือสถาบันการเงินทุกแห่ง ไม่ให้ทำธุรกรรมหรือมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี ในกรณีดังต่อไปนี้
- การเข้าไปลงทุนหรือซื้อขายในคริปโตเคอเรนซีเพื่อผลประโยชน์ของสถาบันการเงินเองหรือผลประโยชน์ของลูกค้า
- การให้บริการรับแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีผ่านช่องทางให้บริการของสถาบันการเงิน
- การสร้างแพลตฟอร์ม (platform) เพื่อเป็นสื่อกลางให้ลูกค้าเข้าไปทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีระหว่างกัน
- การให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตในการซื้อคริปโตเคอเรนซี
- การสนับสนุนหรือให้คำปรึกษากับลูกค้าเกี่ยวกับการลงทุนหรือการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี
และขอให้สถาบันการเงินเพิ่มความระมัดระวังการให้บริการด้านเงินฝากและด้านสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชี หรือการใช้บัญชีที่อาจนำไปสู่การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี โดยขอให้สถาบันการเงินถือปฏิบัติในเรื่องการรู้จักตัวตนของลูกค้า (Know Your Customer : KYC)
และดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence : CDD) อย่างเคร่งครัด ตามกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้อง
https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/562164570819492/
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง









