ปัญหาภัยแล้ง-ฝุ่นพิษ ส่อกระทบเศรษฐกิจ 15,000 ล้านบาท

ปัญหาภัยแล้ง-ฝุ่นพิษ ส่อกระทบเศรษฐกิจ 15,000 ล้านบาท

สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินภัยแล้ง ปี 2562 กระทบเศรษฐกิจเสียหาย 15,300 ล้านบาท นอกจากแล้งแล้ว สภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้ปลาในกระชังของเกษตรกร อุบลราชธานี น๊อกน้ำตาย มูลค่าความเสียหายนับล้านบาท

วันที่ 26 มี.ค.2562 เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระจังต้องขาดทุนอย่างหนัก หลังปลานิลที่เลี้ยงไว้น็อกน้ำตายเกือบหมดบ่อ ต้องช่วยกันตักขึ้นบนบก เพื่อนำไปแช่ในถังใส่น้ำแข็ง เเล้วจะนำไปขายราคาถูกให้กับประชาชนกิโลกรัมละ 30-40 บาท และ บางส่วนชำแหละทำเป็นปลาร้า ลดการขาดทุน

นางสายสมร เถ้าทุมมา เกษตรกร อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี บอกว่า ที่ปลาน็อคน้ำตายจำนวนมากครั้งนี้เนื่องจากเมื่อวานอากาศปิด และมีฝนตกลงมาต่อเนื่องนานหลายชั่วโมงทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้และมีอายุใกล้เก็บเกี่ยวเริ่มมีอาการขาดออกซิเจน ในพื้นที่มีเกษตรกรได้รับความเสียหายแล้ว 4 ราย จากจำนวนผู้เลี้ยงปลาทั้งหมด 13 ราย คิดเป็นปริมาณปลานิลที่ตายครั้งนี้กว่า 20ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สภาพอากาศโดยเฉพาะภัยเเล้งอาจทำให้เกิดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 15,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.1% ของ จีดีพี หากรวมผลเสียหายของพืชเกษตรอื่นอาจทำให้มีมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่าที่ประเมินไว้

ทั้งนี้ ภัยแล้งได้ส่งสัญญาณที่มาเร็วและยาวนานกว่าทุกปีซึ่งส่อเค้าถึงระดับน้ำในเขื่อนที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะกระทบต่อพืชเกษตรสำคัญที่กำลังเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูแล้งซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคดังกล่าว/ คือ ข้าวนาปรังซึ่งมีผลผลิตอยู่ในภาคกลางเป็นหลักถึง 47.8% และอ้อยซึ่งมีผลผลิตอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลักถึง 43.5%

ส่วนสินค้าเกษตรจะแพงขึ้นมั้ย ในเมื่อแล้งแบบนี้ /ศูนย์วิจัยกสิกรประเมินว่า อาจไม่ได้ทำให้ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นมากนัก กระทบจำกัด กระทบพืชเกษตรเพียงไม่กี่รายการ เเนะนำเกษตรกรอาจต้องวางแผนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำอย่างเหมาะสมหรือเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ใช้น้ำน้อยทดแทนเพื่อเป็นรายได้เสริม

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง