
รองเสธ.และคณะ ตรวจเยี่ยมพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบชายแดนไทย-เมียนมา
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมคณะทำงานร่วมไทย- เมียนมา ในการเตรียมการส่งผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา (ผภร.) กลับประเทศ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ
วันที่ 18 ก.ค. 2561 พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (ก.ต.) เสนอ ร่างข้อตกลงการส่งตัวผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ ที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่พักพิงชั่วคราวตามแนวชายแดน จากการสำรวจพบว่า ประเทศไทยมีผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบในประเทศเมียนมา ที่อาศัยอยู่ในแหล่งพักพิงชั่วคราวตามแนวชายแดนทั้งสิ้น 9 แห่ง ประกอบด้วย จ.แม่ฮ่องสอน 4 แห่ง จ.ตาก 3 แห่ง จ.กาญจนบุรี 1 แห่ง และ จ.ราชบุรี 1 แห่ง มีผู้หลบหนีภัยทั้งหมด ประมาณ 99,700 คน

สาระสำคัญของร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
- ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันกับพื้นฐานของความเป็นมิตร เพื่อนบ้านที่ดีและความรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อให้การเดินทางกลับมาตุภูมิของ ผภร. เป็นไปด้วยความสมัครใจ ปลอดภัย และยั่งยืน
- รวบรวมพัฒนาการล่าสุดและชี้ให้เห็นข้อท้าทายจากการเดินทางกลับมาตุภูมิของ ผภร. กลุ่มแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2559
- เตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางกลับโดยสมัครใจของ ผภร. กลุ่มต่อ ๆ ไป และวางพื้นฐานที่มุ่งไปสู่การเดินทางกลับอย่างเป็นระบบมากขึ้นในระยะยาว
- แลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายเห็นว่าสามารถร่วมมือกันได้ เพื่อให้บรรลุการเดินทางกลับอย่างยั่งยืนและสมัครใจ และให้ ผภร. ที่เดินทางกลับไปแล้วทั้งหมดสามารถดำเนินชีวิตได้ในระยะยาว ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ตั้งงบประมาณสนับสนุนแก่ผู้หลบหนีภัยจำนวน 3.5 ล้านบาท

รองเสธ.ตรวจเยี่ยมพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบชายแดนไทย-เมียนมา
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเคยประกาศเป็นหนึ่งในนโยบายว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศอื่น โดยเฉพาะประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยสงคราม ตามกติกาสากลที่ทุกประเทศต้องทำ ขณะเดียวกัน ประเทศไทยเองต้องคำนึงถึงความพร้อมและความปลอดภัยของประเทศไทยด้วย ส่งผลให้สามารถดูแลได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป มีประเทศต้นทางมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น และผู้หลบหนีภัยเองมีความประสงค์จะกลับประเทศ ซึ่งต้องมีความปลอดภัย และสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งรัฐบาลไทยยินดีจะดำเนินการ
ขอบคุณภาพประกอบจาก กองบัญชาการกองทัพไทย
อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews









