ธปท.ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2563 ติดลบที่ร้อยละ 8.1 หดตัวกว่าที่ประเมินไว้

ธปท.ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2563 ติดลบที่ร้อยละ 8.1 หดตัวกว่าที่ประเมินไว้

ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2563 ปรับตัวลดลงมากกว่าที่ประเมินไว้ หวังมาตรการผ่อนปรนช่วยเศรษฐกิจ ติดลบที่ร้อยละ 8.1 

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2563 ว่า ในเดือนมิถุนายน 2563 อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจติดลบที่ร้อยละ 8.1 โดยหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้ทั้งการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกสินค้าและบริการ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากมีการผ่อนปรนมาตรการควบคุมการระบาด กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ทั้งการเดินทาง การจับจ่ายใช้สอยและการผลิต รวมไปถึงแนวคิดทราเวลบับเบิ้ลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่คาดว่าหากเริ่มดำเนินการจับคู่กับประเทศที่มีความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีไม่แตกต่างจากประเทศไทย เมื่อเดินทางเข้ามาแล้วจะไม่ถูกกักตัว 14 วัน แต่ต้องดำเนินการตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดแล้ว จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2564 จะกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 5 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2563 ติดลบที่ร้อยละ 1.7 จากราคาน้ำมันที่ลดลง โดยคาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ที่ร้อยละ 0.9

มาตรการการคลังของรัฐและมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อของ ธปท. ที่ออกมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องจะสามารถบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นและช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้หลังการแพร่ระบาดคลี่คลาย

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยและเงินเฟ้อในระยะต่อไปจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงและมีทิศทางค่อนข้างต่ำ โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะกลับสู่ระดับเดิม ส่งผลให้มีผู้ว่างงานจำนวนมาก และธุรกิจมีกำลังการผลิตส่วนเกินสูง อย่างไรก็ตามภาครัฐจะต้องบูรณาการร่วมกันเพื่อรักษาศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ได้แก่ การดูแลสภาพคล่อง การปรับโครงสร้างหนี้ การรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน และการเตรียมมาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางการเงิน

อ้างอิงข้อมูลจาก กรมประชาสัมพันธ์

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง