
กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.อนุมัติลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ในเดือนมกราคม โดยใช้เกณฑ์รายได้ครอบครัวเป็นตัวคัดกรองคุณสมบัติ ซึ่งคาดว่าจะทำให้จำนวนคนที่เคยได้รับบัตรหายไปส่วนหนึ่ง นอกจากนี้จะพิจารณาสวัสดิการอื่นๆ มาเพิ่มเติม อาทิ มาตรการมารดาประชารัฐ เพื่อช่วยเหลือแม่ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งถือว่าเป็นไปตามนโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ
วันที่ 23 ธ.ค.2562 นายฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือน ม.ค.2563 กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรีเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ เพื่อนำมาพิจารณาจัดสวัสดิการของรัฐให้เพิ่มเติม ขณะเดียวกันยังเป็นการคัดกรองผู้ที่มีความเหมาะสมจะได้รับสวัสดิการรัฐด้วย
สำหรับเกณฑ์ในการคัดกรองผู้มีรายได้น้อยจะปรับเป็นนำรายได้ของครอบครัวแทนรายได้ ส่วนบุคคลแต่จะคงรายได้เฉลี่ยตัวหัวไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนข้อมูลบัตรเครดิตและรถยนต์นั้นคงยังไม่นำมาพิจารณา คาดว่า การนำรายได้ครอบครัวมาเป็นเกณฑ์ในการคัดกรองจะทำให้กลุ่มที่ได้รับบัตรสวัสดิการเดิม 14.6 ล้านรายจะหายไปส่วนหนึ่ง ซึ่งเดิมทีสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) คาดว่า จะเสนอให้เข้าสู่ที่ประชุม ครม. วันที่ 24 ธ.ค. แต่ไม่ทัน เพราะมอบให้ไปปรับแก้ในบางประเด็น เช่น เรื่องการคิดรายได้ ครัวเรือนยังมองไม่ตรงกัน โดยไม่อยากให้เกณฑ์ดังกล่าวไปดึงคนให้เข้ามารับบัตรมากขึ้นเพราะจุดประสงค์คือ คนที่ได้บัตรต้องจนจริง และอยู่ในครอบครัวไม่มีฐานะร่ำรวย หากมีรายได้ของครอบครัวปีละ 1 ล้านบาทก็ไม่ควรได้รับบัตรทั้งครอบครัว

ส่วนสวัสดิการเพิ่มเติมนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มจากเงินรายเดือนซื้อของร้านธงฟ้า ค่าขึ้นรถเมล์ รถไฟโดยมาตรการ คาดว่าจะนำมาใช้เพิ่มเติม เช่น มารดาประชารัฐ ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐเคยหาเสียงไว้คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้เพิ่มประชากรไทย และเป็นการช่วยเหลือ แม่ที่มีรายได้น้อยเพิ่มเติม จากที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือเงินค่าเลี้ยงดูเด็กอายุ 0-6 ขวบ
นอกจากนี้จะมีมาตรการอื่นๆ ที่จำเป็น โดยจะนำข้อมูลจากการใช้จ่ายผ่านระบบอีเพย์เมนท์เข้ามาพิจารณาว่าจะให้สวัสดิการอะไรเพิ่มเติม ซึ่งในปีงบ 2563รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อดูแลกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการ 4 หมื่นล้านบาท หากไม่เพียงพอจะ เพิ่มเติมได้อีก
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวง การคลังจัดตั้งกองประชารัฐสวัสดิการเพื่อเข้ามาดูในเรื่องของสวัสดิการให้กับกลุ่มผู้ถือบัตร และให้กองดังกล่าวเป็นศูนย์การในการบริหารจัดการ เนื่องจากต้องการให้เรื่องสวัสดิการเป็นงานประจำของกระทรวงการคลังต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง และต้องการให้มีการลงทะเบียน และดูข้อมูลของผู้มีรายได้น้อยทุกปี










