ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ ‘กรุงศรี’ ยืนยันบทบาทความเป็นผู้นำในการให้บริการกลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
ผ่านการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่น (JPC Banking) ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเป็นกลุ่มธุรกิจที่แข็งแกร่งมากที่สุดแห่งหนึ่งของธนาคาร
โดยมุ่งสู่เป้าหมายการเติบโตแบบยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้กลยุทธ์ ‘Co-creating New Core Industries’
[ ฐานลูกค้าแข็งแกร่ง เชื่อมญี่ปุ่นสู่ไทย ]
Krungsri JPC Banking มีฐานลูกค้าญี่ปุ่นในประเทศไทยมากกว่า 70% ของธุรกิจญี่ปุ่นทั้งหมดที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศ ครอบครองส่วนแบ่งเงินฝากจากธุรกิจญี่ปุ่นราว 40-50% และคิดเป็นสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อโดยรวมของธนาคารถึง 10-12% นับเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่ธนาคารให้ความสำคัญสูงสุด ทั้งในเชิงกลยุทธ์และการพัฒนา
ความสำเร็จของ Krungsri JPC Banking มาจากการผสานจุดแข็งระหว่างธนาคารกรุงศรีฯ ที่เป็นธนาคารไทยที่เข้าใจบริบทในประเทศ กับ MUFG ธนาคารชั้นนำระดับโลกจากญี่ปุ่น ทำให้สามารถพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ครอบคลุมทั้งในระดับธุรกิจ พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่เศรษฐกิจ รวมถึงตอบโจทย์ทางวัฒนธรรม ภาษา และความเข้าใจในระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทยได้อย่างลงตัว
[ กลยุทธ์ปี 2568 ขยายโอกาสใหม่ ]
ในปี 2568 กรุงศรี JPC Banking มีกลยุทธ์สำคัญ 3 ด้าน ได้แก่
1. สนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ ร่วมมือภาครัฐสร้างระบบนิเวศใหม่
กรุงศรีมุ่งขับเคลื่อนการลงทุนจากญี่ปุ่นสู่ประเทศไทย ผ่านเวทีระดับภูมิภาค เช่น Japan-ASEAN Startup Business Matching Fair ซึ่งจัดร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชนจาก 7 ประเทศ เพื่อเปิดเวทีให้สตาร์ทอัพและนักลงทุนจากญี่ปุ่นและอาเซียน ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เจรจาธุรกิจ และร่วมกันสร้างระบบนิเวศใหม่ที่ยั่งยืน
ในปีนี้ กรุงศรีให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมหลักใหม่ที่มีศักยภาพสูง ได้แก่
- เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor)
- เทคโนโลยีการผลิตอาหาร (Food Technology)
- การเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture)
- ชีวภัณฑ์เพื่อการเกษตร (Bio Green)
ตัวอย่างความร่วมมือในปีนี้ เช่น การจัดสัมมนาเชิงวิชาการเรื่อง Semiconductor ร่วมกับสถาบันพระจอมเกล้าพระนครเหนือ การหารือกับรัฐบาลญี่ปุ่นในการกระจายเงินลงทุนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลในไทย
2. ยกระดับบริการทางการเงิน เน้น ESG และดิจิทัล
กรุงศรีเดินหน้าผลักดันผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ส่งเสริมความยั่งยืน เช่น ‘เงินฝากเพื่อความยั่งยืน’ ซึ่งเป็นธนาคารแห่งแรกในไทยที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และได้รับการตอบรับอย่างดีจากองค์กรชั้นนำในกลุ่มญี่ปุ่น ได้แก่ โตโยต้า ลีสซิ่ง เอจีซี วีนิไทย และโซนี่ ดีไวซ์ เทคโนโลยี
นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Toyota Leasing Thailand เพื่อพัฒนาสินเชื่อเพื่อสังคมที่มุ่งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร และผู้ด้อยโอกาส ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียม อีกทั้งยังส่งเสริมการให้ความรู้ด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับผู้บริหารและบุคลากรขององค์กรญี่ปุ่นในไทย
ภายใต้เป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ธนาคารได้วางแผนร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนในระยะยาว
3. ให้คำปรึกษาทางธุรกิจ เสริมศักยภาพขยายสู่ภูมิภาค
ด้วยเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ได้แก่ VietinBank (เวียดนาม), Danamon Bank (อินโดนีเซีย) และ Security Bank (ฟิลิปปินส์)
กรุงศรีสามารถขยายบริการ Krungsri ASEAN LINK ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ลูกค้าญี่ปุ่นและไทยสามารถเข้าถึงบริการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ และเครือข่ายทางธุรกิจในอาเซียนได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ในปีที่ผ่านมา งาน Krungsri ASEAN LINK Forum ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการกว่า 200 ราย ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการเป็นสะพานเชื่อมโอกาสการลงทุนระหว่างประเทศ
ซึ่งในปี 2568 ธนาคารตั้งเป้าสานต่อภารกิจการเป็น ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาคอาเซียน’ อย่างต่อเนื่อง

[ ญี่ปุ่นกับอาเซียน เศรษฐกิจแห่งอนาคต ]
การเชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่นและอาเซียนมีบทบาทสำคัญต่ออนาคตของภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงบทบาทของญี่ปุ่นในฐานะนักลงทุนรายใหญ่ในไทยที่มีการลงทุนสะสมมายาวนาน ขณะที่อาเซียนเป็นตลาดขนาดใหญ่และมีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง
Krungsri JPC Banking ไม่เพียงแต่สนับสนุนการเชื่อมโยงระดับธุรกิจเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ความรู้ และองค์ความรู้ด้าน ESG ระหว่างสองภูมิภาคอย่างเป็นระบบ ช่วยสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจทั้งในระดับชาติและระดับภูมิภาค
[ ตั้งเป้าโตสวนตลาด ท่ามกลางความท้าทาย ]
แม้ภาวะเศรษฐกิจในปี 2568 จะยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ Krungsri JPC Banking ตั้งเป้าเติบโตพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนหน้า โดยเน้นการขยายธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง เช่น Data Center, Semiconductor และ Smart Agriculture
ด้วยความเข้าใจในพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง การทำงานเชิงรุกกับภาครัฐ รวมถึงความสามารถในการพัฒนาโซลูชันทางการเงินและไม่ใช่การเงินอย่างครบวงจร ทำให้ Krungsri JPC Banking ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นได้อย่างต่อเนื่อง
[ กรุงศรีในบทบาทเพื่อความยั่งยืน ]
Krungsri JPC Banking ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการทางการเงินสำหรับธุรกิจญี่ปุ่นในไทย แต่ยังทำหน้าที่เป็น ‘พาร์ตเนอร์เพื่อความยั่งยืน’ ที่ช่วยส่งเสริมทั้งเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม ผ่านนวัตกรรม ความร่วมมือ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่น-อาเซียน
‘บุนเซอิ โอคุโบะ’ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่น กล่าวว่า กรุงศรีจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจญี่ปุ่นและการเติบโตของเศรษฐกิจไทย สานต่อนวัตกรรม เสริมสร้างการเติบโต และยกระดับความร่วมมือระดับภูมิภาค
เพื่อสนับสนุนความสำเร็จของลูกค้าและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ เราพร้อมเดินเคียงข้างเป็นพันธมิตรทางธุรกิจอันดับแรกที่ลูกค้าไว้วางใจ และเป็นแพลตฟอร์มเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจน การดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม และเป้าหมายที่มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน Krungsri JPC Banking ยังคงยืนหยัดเป็นกลไกสำคัญของเศรษฐกิจไทยและอาเซียน ในการเชื่อมโยงญี่ปุ่นกับภูมิภาค สร้างโอกาสใหม่ และส่งเสริมการพัฒนาในทุกมิติอย่างแท้จริง…










