เปิดใจ ‘อมรัตน์ ก้าวไกล’ ทำอย่างที่พูด “เป็น ส.ส. สมัยเดียว” พร้อมเผยแรงบันดาลใจแรกสู่เส้นทางการเมือง “เพราะอยากช่วยเพื่อน”

เปิดใจ ‘อมรัตน์ ก้าวไกล’ ทำอย่างที่พูด “เป็น ส.ส. สมัยเดียว” พร้อมเผยแรงบันดาลใจแรกสู่เส้นทางการเมือง “เพราะอยากช่วยเพื่อน”

การเมือง

เปิดใจ ‘อมรัตน์ ก้าวไกล’ ทำอย่างที่พูดเป็น ส.ส. สมัยเดียว เตรียมยุติบทบาทในสภาฯ เผยแรงบันดาลใจเข้าสู่เส้นทางการเมืองระดับประเทศ เพราะอยากช่วยเพื่อนที่ต้องลี้ภัยทางการเมืองให้กลับบ้าน

ผู้อภิปรายที่มีสีสันในสภาผู้แทนราษฎร ที่กล่าวได้ว่ามีภาพเป็น “คู่ปรับ” คนหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ว่าได้ นั่นคือ  อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หรือ ส.ส.เจี๊ยบ ได้เปิดใจกับ workpointTODAY ถึงข่าวการเตรียมวางมือทางการเมือง ยุติบทบาท ส.ส. ในสภาฯ ว่า จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจประกาศ เพราะเป็นเรื่องที่พูดนานแล้วตั้งแต่เป็น ส.ส. ใหม่ๆว่า “จะเป็น ส.ส. สมัยเดียว”

(ภาพจาก : สภาผู้แทนราษฎร)

ย้อนวันแรกที่ตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเมืองระดับประเทศ-แรงบันดาลใจสำคัญ

อมรัตน์ : ที่สนใจและมีแพชชั่น (Passion) ตอนนั้น เราทำกิจกรรมต่อต้านรัฐประหาร ปี 57 แล้วก็โดนคดีความ โดนทหารมาคุกคามที่บ้าน แล้วเผอิญมีพรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นมาก็ถูกใจ เพราะพรรคการเมืองที่มีอยู่ในท้องตลาดตอนนั้นก็รู้สึกไม่ตอบโจทย์ แล้วอาจารย์ปิยบุตร (ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า) ก็ชวนมาก่อตั้งพรรค สุดท้ายก็ได้มาเป็นบัญชีรายชื่อ ใช้คำว่าจับพลัดจับผลูก็ได้ ได้รับเลือกจากที่ประชุมพรรคให้เป็นกรรมการสัมภาษณ์ผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ พอหลังจากสัมภาษณ์เสร็จ อาจารย์ป๊อก (ปิยบุตร แสงกนกกุล) ก็บอกให้มาเป็นบัญชีรายชื่อด้วย ก็อยู่ในลำดับที่ไม่คิดว่าจะได้เป็นหรอก ลำดับ 29 ตอนนั้นพรรคก็ยังไม่มีกระแส ยังไม่เป็นที่รู้จักเลย ทำไปทำไมพรรคก็ได้บัญชีรายชื่อตั้ง 50 คน อยู่อันดับ 29 ก็เลยได้

แรงบันดาลใจใหญ่ที่เข้ามา คือเพื่อนที่ต่อสู้บนท้องถนนด้วยกันก็ต้องลี้ภัย ถูกเรียกรายงานตัว ลี้ภัยเยอะมาก กว่า 40 คน ที่สปป.ลาว (รุ่นอาจารย์สุรชัย เสียชีวิตที่แม่น้ำโขง) แพชชั่นตอนนั้น  เป็นการเมืองรอยต่อ ที่มาจากรัฐประหาร เราก็รู้สึกว่า นักการเมืองที่มี ไม่พูดในสิ่งที่ควรจะกล้าพูด พอมีโอกาสอาจารย์ปิยบุตรชวนก็ลองลงรายชื่อด้วย แล้วบังเอิญก็ได้เป็น เลยต่อสู้ อยากจะเอาผู้ลี้ภัยกลับบ้าน อยากจะเอาเพื่อนกลับบ้าน แล้วในที่สุดได้มาทำงานในสภาฯ เราก็ได้ขับเคลื่อน เช่น พ.ร.บ.อุ้มหาย พ.ร.บ.ซ้อมทรมาณ ก็เกี่ยวข้องกัน แล้วคิดว่าตัวเองเป็นนานกว่าที่คิด คิดว่าจะเป็นไม่กี่เดือน แล้วทำไปทำไปมาจะครบ 4 ปี รู้สึกว่าสิ่งที่อยากผลักดันสิ่งที่อยากทำในสภาฯ ก็ทำไปหลายเรื่องแล้ว ได้ใช้สถานะภาพเต็มที่แล้ว ทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ อยากจะเป็นนักการเมืองแบบไหนก็ได้เป็นแล้ว

และก็คิดว่า พรรคก้าวไกลก็มีคนมาร่วมทางเยอะแยะเลยคนหนุ่มสาวไฟแรง มีความสามารถเข้ามาเดินเข้ามาเยอะ ก็คิดว่าเราก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีด้วยในเรื่องการไม่ยึดติด อยากเปิดพื้นที่ ทั้งที่รู้ตัวถ้าลงสมัครในสมัยหน้าเราก็อยู่ในเซฟโซน (save zone) เป็นนักการเมืองผู้หญิงที่พรรคก็มีน้อย แต่ก็คิดว่าถ้าเป็นการเมืองในยุคปกติที่เป็นเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ถือว่าปกติแล้ว เลยไม่มีแพชชั่นทางที่อยากจะมาทำงานในสถานการณ์ที่ปกติ ตอนที่เข้ามาเป็นการเมืองไม่ปกติ มีการสืบทอดอำนาจ มีรัฐประหาร ยังไม่สะเด็ดน้ำ ยังมีการต่อสู้  เราก็คิดว่ามาต่อสู้ในสภาฯ  แต่การเมืองที่มาถึงตอนนี้ มีความตื่นรู้ การเมืองภาคประชาชนก็ไม่มีอะไรที่เราต้องทำ

ในการตัดสินใจวางมือทางการเมืองในสภาฯ นั้น  ส.ส.อมรัตน์ ย้ำว่า ไม่ใช่การยื่นลาออกตำแหน่ง ส.ส. ทันที แต่จะเป็น ส.ส. จนกว่าจะเกิดการยุบสภาฯ หรือหมดวาระของสภาฯ ชุดนี้ เพราะถ้าลาออกตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์กับพรรค เพราะจะเลื่อนลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อไม่ได้ เพราะเป็นบัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไปแล้ว จะเสียสัดส่วนทุกอย่าง ไม่ได้ท้อจนจะลาออก และจะยังคงเป็น กรรมการบริหารพรรคของพรรคก้าวไกลต่อไป

“ขอบคุณมากๆ เป็นกำลังใจไม่ได้หายไปไหน ยังทำงานขับเคลื่อนพรรคอยู่เบื้องหลัง ก็ไม่ทิ้งไปไหน ก็จะเป็นกำลังใจส่งต่อคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ขอบคุณมากสำหรับคนที่เชียร์และก็คนที่ด่า” อมรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายฝากถึงแฟนคลับที่ติดตามการทำงานของเธอตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ เป็น ส.ส.

โดยหลังปิดฉากบทบาท ส.ส. แล้ว อมรัตน์ บอกว่า แน่นอนจะเดินหน้าทำงานการเมืองนอกสภาภาคประชาชนมากขึ้น จากที่ก็เคยเปิดหน้าอยู่แล้ว เพราะไม่มีกรอบของนักการเมืองมาจำกัดอีกแล้ว

ภาพปกจากเฟซบุ๊ก : Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล

ย้อนชมไฮไลต์การอภิปรายในสภาฯ ของ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง