แบงก์ชาติตอบกรณี นายกเรียก 4 ธนาคารลดดอกเบี้ย หากไอเดียดีก็พร้อมสนับสนุน

แบงก์ชาติตอบกรณี นายกเรียก 4 ธนาคารลดดอกเบี้ย หากไอเดียดีก็พร้อมสนับสนุน

การเงิน

แบงก์ชาติตอบกรณีที่นายกเรียก 4 ธนาคารหารือเรื่องลดดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง สอดคล้องกับนโยบายของ ธปท. หากไอเดีย-วิธีการดี ก็พร้อมสนับสนุน

‘ปิติ ดิษยทัต‘ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีเรียกพบธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง เพื่อหารือถึงแนวทางลดดอกเบี้ยให้แก่กลุ่มเปราะบาง ว่า

การมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเปราะบาง เป็นกลุ่มที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญว่ามีความจำเป็นและควรที่จะได้รับการช่วยเหลือ สอดคล้องกับนโยบายของแบงก์ชาติที่เริ่มตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ก็มีมาตรการช่วยเหลือที่เฉพาะเจาะจงกับกลุ่มเปราะบางเช่นกัน

ช่วงที่ปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ (Policy Normalization) ธปท.ก็มีการดูแลให้ธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารเรียกเก็บลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ที่กระทบกับกลุ่มรายย่อย น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR)

นอกจากนี้ แบงก์ชาติยังออกหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อด้วยความรับผิดชอบ (Responsible Lending) เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบางทั้งก่อนเป็นหนี้เสีย (NPL) และหลังเป็นหนี้เสียด้วย

‘ในแง่ของแนวทางว่าจะดูแลกลุ่มเปราะบาง สอดคล้องกับที่ ธปท.ให้ความสำคัญ คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าสมาคมฯ ว่าจะออกหรือทำอะไรเพิ่มเติม ถ้าเป็นแนวทางที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดี‘

ทั้งนี้ หากธนาคารพาณิชย์มีไอเดียหรือวิธีการที่น่าสนใจใหม่ๆ แบงก์ชาติก็พร้อมรับฟัง และหากดีก็พร้อมที่จะสนับสนุน โดยสมาคมธนาคารไทยวันนี้ (24 เม.ย. 2567) มีการประชุมหารือต่อเนื่องเพื่อพิจารณาถึงประเด็นดังกล่าว

เมื่อสอบถามถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แบงก์ชาติระบุว่า แบงก์ชาติไม่มีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำโครงการฯ และภาพรวมไม่ขัดข้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เพียงแต่เป็นห่วงเรื่องรูปแบบที่อยากให้เจาะจงกลุ่มที่มีปัญหาเพื่อให้ความช่วยเหลือทำได้ตรงจุด คุ้มค่าเม็ดเงินเท่านั้น

ขณะที่การลดดอกเบี้ย กนง.พร้อมทบทวนนโยบายดอกเบี้ย หากมีข้อมูลใหม่ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญเข้ามาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ข้อมูลปัจจุบันชี้ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1% จะช่วยลดภาระหนี้ในระยะสั้นเท่านั้น แต่ส่งผลให้ยอดคงค้างหนี้เพิ่มขึ้นในระยะยาว

KingployWriterKingploy
Dolce far Niente

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง