แบงก์ชาติไม่ปลื้มคาดศก.ปีหน้าโต 2.8% แนะปฏิรูปโครงสร้าง

แบงก์ชาติไม่ปลื้มคาดศก.ปีหน้าโต 2.8% แนะปฏิรูปโครงสร้าง

ผู้ว่าแบงก์ชาติคาดเศรษฐกิจไทยปีหน้าเติบโตร้อยละ 2.8 แต่ยังต่ำกว่าศักยภาพที่สามารถขยายตัวได้ 3.5 ถึง 4 แนะปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยเฉพาะห่วงโซอาหารที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่จีนตกเป็นเป้าหมาย
วันที่ 23 ธ.ค. นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าแบงก์ชาติ) กล่าวในการสัมมนา “Thailand Economic Outlook อนาคตเศรษฐกิจไทย 2020” ตอบคำถามเศรษฐกิจไทยจะเป็นไปตามวาทกรรม “ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง” หรือไม่ว่า ปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 (2.8 %) คือขยายตัวดีกว่าปีนี้ ด้วยสองปัจจัย คือ
 
1. บทบาทของภาครัฐในการลงทุน มิติการคลังจะมีแรงส่งมากกว่า ปีนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญในช่วงเลือกตั้ง จนกว่าได้รัฐบาลโครงการใหญ่ชะงักหมดแทบไม่มีความคืบหน้า แม้มีรัฐบาลแล้วก็ยังไม่มีงบประมาณที่ควรจะเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 ซึ่งมีการพูดกันว่า งบประมาณประจำปี 2563 อาจจะมีผลบังคับใช้ได้ราวเดือนกุมภาพันธ์ 2563  
 
2. การฟื้นตัวของการค้าโลกมีแนวโน้มดีกว่าปีนี้ ที่อยู่ในจุดต่ำสุดในรอบหลายปีคือประมาณไม่ถึงร้อยละ 1  ขณะที่การส่งออกซึ่งปีนี้ติดลบร้อยละ 3-4 ปีหน้าน่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวก เนื่องจากเริ่มเห็นการผลิตทางอุตสาหกรรมในประเทศยุโรป เพราะสต็อกเริ่มลดลง
อย่างไรก็ตาม แม้การขยายตัวของเศรษฐกิจที่อัตราร้อยละ 2.8 เป็นการขยายตัวดีกว่าปีนี้ก็ตาม แต่เป็นการขยายตัวที่ต่ำกว่าศักยภาพของเศรษฐกิจไทยที่สามารถโตได้ถึงร้อยละ 3.5 – 4  เราไม่พอใจกับการขยายตัวที่ระดับร้อยละ 2.8 และคิดว่าจะช่วยกันขับเคลื่อนไปข้างหน้ามากขึ้น
ผู้ว่าแบงก์ชาติ ยังแนะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ อาทิ ห่วงโซ่การผลิตที่กำลังถูกกระทบ หลังจีนเป็นเป้าหมายในสงครามการค้า ส่วนค่าเงินบาทแข็งสะท้อนอาการอักเสบเชิงโครงสร้างไม่ใช่แค่ป่วย
“ค่าเงินบาท เป็นอาการสะท้อนเชิงโครงสร้าง เหมือนเวลาที่เราไม่สบาย เราอาจจะมีปัญหาอาการอักเสบอยู่ข้างใน ที่เราไม่รู้ แต่พอมาเจอสภาพดินฟ้าอากาศเปลี่ยน ไข้มันก็ออกมา เราก็เป็นไข้ แต่ถ้าเราคิดว่าเราเป็นแค่เป็นไข้ เราให้แต่ยาแก้ไข้ มันก็ไม่แก้เพราะว่ามันอักเสบอยู่ข้างใน และยาแก้ไข้มันไปสร้างผลข้างเคียงที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นอีกก็ได้”
ขอบคุณภาพ: กรุงเทพธุรกิจ

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง