ตึกมหานคร กรุงเทพ AFP1263

Bloomberg ยกไทยขึ้นที่ 1 ตลาดเกิดใหม่น่าจับตามองในปีหน้า

รายงานทางเศรษฐกิจของบลูมเบิร์กแนะให้เฝ้ามองการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ที่อาจทำได้ดีเกินคาดในปี 2564

วันที่ 17 ธ.ค. 2563 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) เปิดเผยรายงานการวิเคราะห์เศรษฐกิจของ 17 ประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ปี 2564 โดยใช้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและการเงิน 11 ข้อ มีการจัดอันดับให้ไทยอยู่อันดับที่ 1 จากทุนสำรองที่เข้มแข็ง และมีโอกาสสูงที่จะเกิดการไหลเข้าของ Portfolio inflows ซึ่งเป็นการลงทุนในรูปแบบหุ้น ตราสารหนี้ และตราสารทางการเงินอื่นๆ

ข้อมูลจากตารางที่จัดทำขึ้นชี้ว่า ไทยมีอันดับที่ไม่ดีนักในเรื่องของการล็อกดาวน์ ที่อาจส่งผลต่อความคล่องตัวต่างๆ รวมถึงการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ที่จัดอยู่ในกลุ่มที่แย่ที่สุด (3.9%) รวมถึงสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่ค่อนข้างสูง (41%) เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่นำมาจัดอันดับ ซึ่งทางผู้จัดทำรายงานเตือนในภาพรวมว่าต้องคอยจับตาดูสัดส่วนหนี้ตรงนี้เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อไป

ความกังวลอีกเรื่องคือการฟื้นตัวหลังโควิด-19 ที่หลายประเทศอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลังในด้านการกระจายวัคซีน และหลายประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ หรือที่ก่อนหน้านี้เรียกว่าตลาดกำลังพัฒนา ก็ได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงโควิด-19 ระบาดอยู่แล้ว โดยเฉพาะไทยที่พึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างมาก

อันดับ 2 ตามมาด้วยรัสเซีย ที่แม้จะมีสัดส่วนหนี้ต่ำมาก แต่อัตราการเติบโตของ GDP นั้นแย่กว่าไทยเล็กน้อย ส่วนอันดับ 3 ร่วมคือเกาหลีใต้และไต้หวัน

ส่วนอันดับรองสุดท้ายบราซิล ที่มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงที่สุด (89%) และอันดับสุดท้ายคือจีน โดยให้เหตุผลว่า ได้รับการคาดหวังที่สูงมากอยู่แล้ว

รายงานของบลูมเบิร์กฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยนำตัวชี้วัดต่างๆ ของ 17 ประเทศมาวิเคราะห์ถึงการเติบโตในปีหน้า โดยตัวชี้วัดเหล่านั้นได้มาจากทั้งการคำนวณของบลูมเบิร์กเอง รวมถึงองค์กรระดับนานาชาติอย่างกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และบริษัทเอกชนอย่าง Goldman Sachs และ Barclays ซึ่งท้ายรายงานระบุว่าเป็นความเห็นจากนักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กที่พิจารณาจากปัจจัยที่นำมาคำนวณเท่านั้น

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง