เสนอแคนดิเดตตนายกฯ ควรแสดงวิสัยทัศน์ก่อนการลงคะแนน

เสนอแคนดิเดตตนายกฯ ควรแสดงวิสัยทัศน์ก่อนการลงคะแนน

นักวิชาการรัฐศาสตร์ ย้ำกติกาเหลือแคนดิเดต 7 คนลุ้นนายกรัฐมนตรี พร้อมเสนอว่าที่นายกฯ ควรปรากฏตัวในสภาและแสดงวิสัยทัศน์แม้กฎหมายไม่บังคับ เพื่อให้เกียรติผู้แทนปวงชนชาวไทยที่มาจากการเลือกตั้ง

วันที่ 1 มิ.ย. รศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี หัวหน้าภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีของสมาชิกรัฐสภา ในวันที่ 5 มิ.ย. นี้ว่า

ผู้มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อรับการโหวตจาก ส.ส. (500) และ สว. (250) จะมีเพียงแคนดิเดต 7 คน จากพรรคการเมืองที่ได้ ส.ส.อย่างน้อย 5% หรือ 25 คน จากสภาผู้แทนราษฎร 500 คน

ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (พลังประชารัฐ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ประชาธิปัตย์) นายอนุทิน ชาญวีรกูล (ภูมิใจไทย) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (อนาคตใหม่) และพรรคเพื่อไทย 3 คน คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายชัยเกษม นิติสิริ

คาดว่าได้เห็นการปะทะกันระหว่าง 2 ชื่อ จาก 2 ค่าย หรือ 3 ชื่อ หากประชาธิปัตย์ตัดสินใจส่งนายอภิสิทธิ์ลงแข่งขัน โดยที่ภูมิใจไทยน่าจะเลือกไม่เสนอชื่อนายอนุทิน

รศ.สิริพรรณ ระบุด้วยว่าแม้กติกาไม่ได้กำหนดให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อต้องปรากฏตัวในสภา แต่โดยความเหมาะสมตามกระบวนการทางการเมือง ผู้ได้รับการเสนอชื่อควรอย่างยิ่งที่จะต้องแสดงตัว การเข้าร่วมประชุมรัฐสภาเป็นการให้เกียรติผู้แทนปวงชนชาวไทยที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นปฐมบทของการแสดงความรับผิดชอบต่อสภานิติบัญญัติ ที่แม้สมาชิกส่วนหนึ่งจะแต่งตั้งมาเอง แต่โดยหลักการของระบบรัฐสภา สภานิติบัญญัติจะต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ คานอำนาจ และทำงานร่วมกับฝ่ายบริหาร จะดียิ่งหากมีการแสดงวิสัยทัศน์ว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะนำพาประเทศไทยไปในทิศทางใด

ส่วนเรื่องกำหนดเวลาในการได้นายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และ 2550 กำหนดให้ สภาผู้แทนราษฎรต้องให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยต้องได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง แต่หากเลย 30 วันแล้วยังไม่ได้ให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด โดยไม่ต้องถึงกึ่งหนึ่งก็ได้

ขณะที่ รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้กำหนดเงื่อนเวลาใด ๆ ไว้ แต่ในบทเฉพาะกาลกำหนดว่า จะต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของ 2 สภารวมกันคือ เกินกว่า 375 จาก 750 เสียง

หากวันที่ 5 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ได้รับคะแนนเสียงเกิน 375 ไม่ว่าจะมี ส.ส. ลงคะแนนให้เกิน 250 เสียงหรือไม่ก็ตาม ประเทศไทยก็จะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์
แต่หากไม่มีใครได้คะแนนเสียงเกิน 375 ก็ไม่มีกำหนดเงื่อนเวลาว่าการพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องเสร็จสิ้นลงเมื่อใด

แต่มีมาตรา 272 (2) ระบุไว้เพียงว่า หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมือง ให้ 2 สภา ร่วมกันเสนอปลดล็อกด้วยเสียงครึ่งหนึ่ง (375) ต่อด้วยการลงมติปลดล็อกด้วยเสียง 2 ใน 3 (500) เพื่อยกเว้นให้คนนอกบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอไว้ ได้รับการพิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี

https://www.facebook.com/siripan.nogsuansawasdee/posts/3064762283541737

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง