กลุ่ม CARE มองเศรษฐกิจไทยจากนี้ SMEs ร้อยละ 30 จะวิกฤติชำระหนี้ไม่ได้ จ่อถูกยึดทรัพย์ กระทบภาพรวม ดร.ศุภวุฒิ แนะภาครัฐตั้งกองทุนเหมือนที่เคยดูแลธนาคารช่วงต้มยำกุ้งมาช่วยภาคธุกิจ เข้าไปถือหุ้นช่วยประคองผ่านสถานการณ์ไม่เกิน 7 ปี ขณะที่ ‘หมอเลี้ยบ’ แนะต้องเลิกกลัวโควิดระบาดรอบ 2 ชี้ไม่มีทางรุนแรงเท่ารอบแรกอีกแล้ว ถ้ามัวแต่กลัวประเทศเดินต่อไม่ได้

วันที่ 13 ก.ย. 2563 กลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทย โดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รม.คลังและ รมช.สาธารณสุข และ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ ร่วมเสนอแนวทางรับมือวิกฤติ
ดร.ศุภวุฒิ กล่าวว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันจะทำ
นอกจากนี้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังเป
บทบาทของกองทุนนี้คือการให้
ธุรกิจที่ขอรับความช่วยเหลื

แนวทางฟื้นฟูช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี
- ตั้งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 2 ล้านล้านบาท คล้ายกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในยุควิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540
- เงินของกองทุนนี้มาจากการที่รัฐบาลออกพันธบัตรอายุ 100 ปี อัตราดอกเบี้ย 01% ขายให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีต้นทุนดอกเบี้ยเพียงปีละ 200 ล้านบาท
- กองทุนอัดฉีดเงินเพื่อเข้าไปถือหุ้นในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 50% ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อราย
- ธุรกิจเอสเอ็มอีนั้น ต้องรับเงื่อนไขในการใส่เงินใหม่ของตนเองเข้าไป 20% ปรับปรุงระบบบัญชีให้ได้มาตรฐาน เพื่อเข้าสู่ระบบภาษีที่ถูกต้อง
- ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ให้ธุรกิจในสัดส่วน 30% เป็นระยะเวลา 3 ปีหรือมากกว่านั้น
- สนับสนุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน ควบรวมกิจการกัน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
ผลที่ได้รับ
- มาตรการนี้จะช่วยป้องกันการหดตัวทางเศรษฐกิจที่แรงและยาวนาน ที่จะนำมาซึ่งผลกระทบต่อพนักงานระดับล่างหลายล้านคน
- รัฐบาลสามารถกระจายอำนาจการปรับโครงสร้างและฟื้นฟูกิจการให้อยู่ในมือของผู้ประกอบการที่เข้าใจในธุรกิจ ทำให้คงการจ้างงานเดิม นำไปสู่การจ้างงานใหม่ ดีกว่าการที่รัฐจะใช้เงินเพื่อจ้างงานระยะสั้น ตามที่ ศบศ.มีแผนจ้างงานระยะ 1 ปี ที่ไร้ทิศทางและยุทธศาสตร์
- สร้างให้ธุรกิจเอสเอ็มอีมีวินัย มีความพยายามที่จะหาเงินมาใส่ในธุรกิจอีก 20% ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีความมั่นใจปล่อยกู้ให้อีก 30%
- เมื่อธุรกิจเอสเอ็มอีฟื้นขึ้นมา ก็จะกลายเป็นผู้เสียภาษีในระบบ สร้างรายได้ให้รัฐในระยะยาว
การถือหุ้นของภาครัฐผ่านกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
- กองทุนฯ จะเข้าไปถือหุ้นในกิจการเป็นระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี
- กองทุนฯ จะทำตัวเป็น Passive Investor หรือนักลงทุนที่รอผลการดำเนินงาน โดยไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารและตัดสินใจทางธุรกิจ
- มีการเข้าไปตรวจสอบกิจการเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่าดำเนินการสอดคล้องตามกฎหมาย
- เจ้าของกิจการสามารถซื้อหุ้นคืนเมื่อไหร่ก็ได้ในราคา 3 เท่าของเงินลงทุนที่กองทุนใส่ให้กิจการ
- ถ้าธุรกิจสามารถนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ กองทุนฯ จะคืนหุ้น 2 ใน 3 ให้กับเจ้าของกิจการ โดยกองทุนจะขายหุ้นส่วนที่เหลืออีก 1 ใน 3 ที่ราคาเสนอขายหุ้นแก่บุคคลทั่วไปครั้งแรก (IPO)
ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโ
ที่ผ่านมารัฐบาลโดย ศบค.สร้างความกลัวให้กับประ
นพ.สุรพงษ์ เสนอให้รัฐบาลเปิดกิจกรรมทา
เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง เช่น ภูเก็ต ให้อยู่ในสถานที่ที่จัดไว้เ










