
คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เตรียมเปลี่ยนหมายเลขรถเมล์ทุกเส้นทาง พร้อมจัดโซนใช้ตัวเลขบอกเส้นทางใหม่ ภายใน 6 เดือน ยืนยันช่วยลดความสับสนของประชาชนในการจดจำเส้นทาง พร้อมเปิดวิ่ง 9 เส้นทางใหม่ ภายใน 2 เดือน
เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางว่า ภายใน 6 เดือน กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะจัดระเบียบหมายเลขของรถเมล์ในกรุงเทพฯ และจะมีการใช้ตัวเลขบอกเส้นทางใหม่ทั้งหมด โดยจะแบ่งตามพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร ได้แก่
- โซนหมายเลข 1 คือ กรุงเทพมหานครฝั่งเหนือ (รังสิต,วิภาวดี) เช่น 101, 108, 112 เป็นต้น
- โซนหมายเลข 2 คือ กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันตก (ปากเกร็ด,บางใหญ่) เช่น 201, 207, 213 เป็นต้น
- โซนหมายเลข 3 คือ กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก (มีนบุรี,บางกะปิ,รามคำแหง) เช่น 301, 309, 318 เป็นต้น
- โซนหมายเลข 4 คือ กรุงเทพฝั่งใต้ (พระราม 2, บางแค, ฝั่งธนบุรี) เช่น 401, 407, 420 เป็นต้น
โดยการจัดทำหมายเลขสายรถเมล์ใหม่ทั้งหมดนั้น เพื่อให้สอดรับกับการปฏิรูปรถเมล์ใหม่ 269 เส้นทาง
รองปลัดกระทรวงคมนาคม เชื่อว่า การจัดระเบียบสายรถเมล์ใหม่ จะช่วยลดความสับสนของประชาชนในการจดจำเส้นทางรถเมล์ เพราะรู้ว่รถเมล์นี้จะเดินทางไปในโซนไหนบ้าง พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการใช้หมายเลขรถเมล์ที่มีสีและตัวอักษรภาษาอังกฤษมาใช้ร่วมกัน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกที่มีการใช้หมายเลขรถเมล์ใหม่ จะมีการใช้หมายเลขเก่าควบคู่ไปด้วย เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบตัวเลขที่เปลี่ยนไป และทำให้เกิดความคุ้นชิน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบออกใบอนุญาตผู้ประกอบการเดินรถใน 9 เส้นทาง ซึ่งตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้ เป็นต้นไป หรือภายใน 1-2 เดือนนี้ จะมีรถเมล์ใหม่มาวิ่งบริการประชาชนตามแผนปฏิรูป โดยเป็นเส้นทางเดินรถของ ขสมก. จำนวน 2 เส้นทาง คือ เส้นทางดอนเมือง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, เส้นทางดอนเมือง-สวนจตุจักร
ส่วนอีก 7 เส้นทาง เป็นเส้นทางเดินรถของรถร่วมบริการ ขสมก. ได้แก่ เส้นทางปากเกร็ด-สวนจตุจักร วิ่งผ่านทางถนนติวานนท์และถนนงามวงศ์วาน, เส้นทางปากเกร็ด-สวนจตุจักร วิ่งผ่านทางถนนแจ้งวัฒนะและถนนวิภาวดี, เส้นทางปากเกร็ด-มีนบุรี, เส้นทางวัดปรางค์หลวง-บางเขน, เส้นทางท่าอิฐ-รามคำแหง, เส้นทางวงกลมการเคหะธนบุรี-บางแค และเส้นทางวงกลมการเคหะธนบุรี-สถานีรถไฟใต้ดินลุมพินี
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางที่จะต้องนำรถที่มีอายุไม่เกิน 2 ปี มาวิ่งให้บริการและภายใน 3 ปี จะต้องมีรถใหม่ร้อยละ 70 ของรถทั้งหมดที่วิ่งให้บริการ









