“ทนายเดชา” ยันคนขนยาขึ้นรถแท็กซี่-แกร็บ คนขับไม่ผิดถ้าไม่รู้

“ทนายเดชา” ยันคนขนยาขึ้นรถแท็กซี่-แกร็บ คนขับไม่ผิดถ้าไม่รู้

ในประเทศ

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล (แฟ้มภาพ)

จากกรณีที่ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส. ) กล่าวถึง ขบวนการค้ายาเสพติดที่เรียกใช้บริการรถรับส่ง โดยเตือนให้ผู้ขับรถ เช่น แกร็บคาร์ ต้องระมัดระวังเพราะแม้ผู้ขับรถจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เมื่อพบของกลางในรถยนต์ก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน

วันที่ 14 ก.ย. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” เจ้าของเพจ ทนายคลายทุกข์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า คดียาเสพติดผู้ใดครอบครองยาเสพติดผู้นั้นต้องรับโทษ ถ้ายาเสพติดอยู่ในกระเป๋าของผู้โดยสาร โดยท่านเป็นผู้ขับรถตามปกติไม่รู้ว่าผู้โดยสารนำยาเสพติดขึ้นมาด้วย ไม่ถือว่ามีความผิดไม่ต้องกลัว

โดยมีกรณีตัวอย่างการตัดสินของศาลอาญาและศาลฎีกาหลายคดี กรณีที่จะมีความผิดคือ นอกจากรับจ้างขับรถแล้วยังรับจ้างขนยาเสพติดกับผู้โดยสาร

“คำว่าเป็นตัวการร่วม ในการครอบครองยาเสพติด ความหมายต้องตีความแคบ หมายถึง ยาเสพติดอยู่ในความครอบครองของคนใดคนนั้นต้องรับผิด”

ดังนั้น คนขับแท็กซี่หรือแกร็บคาร์ที่ผู้โดยสารใส่ยาเสพติดไว้ในกระเป๋า ถ้าไม่รู้ ไม่ถือว่ามีเจตนาครอบครอง อย่าตื่นตระหนกถ้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีความผิด

อย่างไรก็ตาม ทนายเดชา แนะนำว่า หากรถมีการติดจีพีเอส หรือมีการติดกล้องในรถไว้จะสามารถช่วยพิสูจน์พฤติกรรมคนขับได้ เพราะการพิสูจน์เจตนาจะดูจากพฤติการณ์ เช่น ปกติได้ค่าแท็กซี่ 500 บาท แต่มีการจ้างถึง 20,000 บาท แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่าคนขับรับส่งผู้โดยสารที่มียาเสพติดจึงได้ค่าจ้างมากกว่าปกติ นอกจากนั้น หากมีผู้ใช้บริการที่เรียกรถบ่อยๆ หรือให้ไปขนกระเป๋า ก็ต้องระมัดระวังอาจต้องแจ้งตำรวจเผื่อไว้บ้าง

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง