อธิบดีกรมปศุสัตว์ ชี้แจง ราคาไข่ไก่แพงในรอบหลายปี เหตุ ‘อาหารสัตว์’ ต้นทุนเลี้ยงไก่ไข่พุ่งสูงต่อเนื่อง ยืนยัน ไข่ไก่ที่ผลิตภายในประเทศ ยังมีปริมาณเพียงพอสำหรับการบริโภค
จากกรณี สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ แจ้งปรับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอีก 10 สตางค์ มีผลวันนี้ (17 ส.ค. 65) ทำให้ราคาไข่ไก่อยู่ที่ฟองละ 3.60 บาท หรือปรับขึ้นแผงละ 3 บาท โดยเป็นการปรับครั้งที่ 2 ในเดือน ส.ค. 65 ถือเป็นราคาไข่ไก่ที่สูงในรอบหลายปี
นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้ติดตามสถานการณ์การผลิตไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดการประเมินสถานการณ์ในเดือน ส.ค. 65 พบว่า มีไก่ไข่ยืนกรงจำนวน 50.67 ล้านตัว ให้ผลผลิตไข่ไก่ประมาณ 42 ล้านฟองต่อวัน ขณะที่การบริโภคทั้งภายในประเทศและการส่งออก รวมกันประมาณ 41.89 ล้านฟองต่อวัน สถานการณ์การผลิตและการบริโภค อยู่ในจุดใกล้เคียงสมดุล จากที่ก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 65 เกิดปัญหาไข่ไก่ล้นตลาดและราคาตกต่ำขึ้น
อธิบดีกรมปศุสัตว์ ยืนยันว่า ไข่ไก่ที่ผลิตภายในประเทศมีปริมาณเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศอย่างแน่นอน ส่วนการที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นเป็นไปตามกลไกการตลาด โดยใน ปี 2565 นี้ ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของต้นทุนการผลิตไข่ไก่ พบว่า ราคาไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกรตั้งแต่ เดือน ม.ค. ถึง ส.ค. 65 มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.20 บาทต่อฟอง
ส่วนต้นทุนการผลิตเดือน ม.ค. ถึง มิ.ย. 65 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.97 บาทต่อฟอง (คณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตไก่ไข่และไข่ไก่) และมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อย จะมีต้นทุนสูงกว่าค่าเฉลี่ยดังกล่าว มีความจำเป็นต้องปรับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มขึ้นเพื่อให้สามารถประกอบกิจการอยู่ได้
นายสรวิศ กล่าวถึงมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ กรมปศุสัตว์ได้มีการประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชนผู้ผลิตไข่ไก่ ทั้งรายเล็ก รายกลางและรายใหญ่มาโดยตลอดนั้น เน้นปรับสมดุลการผลิตและการบริโภคเป็นหลัก โดยในเดือน ส.ค. 65 มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาสมดุลและคงตลาดส่งออกไว้ตามสภาพปกติเท่านั้น ส่วนแผนการดำเนินการระหว่างเดือน ก.ย. ถึง ต.ค. 65 มีไว้เพื่อรับมือสถานการณ์หลังเทศกาลกินเจ ฝนตกชุก และปิดภาคเรียน ที่ในช่วงนี้ทุกปี มักมีแนวโน้มเกิดปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด จากอัตราการบริโภคตกต่ำ ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยที่ประสบปัญหาต้นทุนสูงอยู่แล้วให้เดือดร้อนมากยิ่งขึ้น และอาจส่งผลให้บางรายต้องมีการเลิกกิจการตามมา
อธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุ จะมีการประเมินสถานการณ์ร่วมกับภาคเอกชนเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง และปรับมาตรการตามสภาวการณ์เพื่อรักษาสมดุลการผลิตและการบริโภคไข่ไก่ให้ใกล้เคียงจุดสมดุล ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ผู้บริโภคต้องไม่เดือดร้อนและเกษตรกรต้องอยู่ได้”










