‘อิทธิพร’ ประธาน กกต. ปัดมีใบสั่ง ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคก้าวไกล หลักฐานสำคัญคือคำวินิจฉัยศาลฯ
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ในวันนี้ (13 มี.ค. 67) ถึงกรณีเมื่อวานนี้ กกต. มีมติเอกฉันท์ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกล โดยสรุประบุว่า กกต.ได้พิจารณาข้อวิเคราะห์ข้อเสนอแนะ ที่สำนักงาน กกต. นำเสนอที่ประชุมว่า การดำเนินการของพรรคก้าวไกล ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะถือเป็นการล้มล้างฯ และจะต้องส่งไปศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่ประชุม กกต. เห็นว่า เรื่องนี้เห็นควรส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ
เรื่องนี้เป็นการดำเนินการโดยใช้อำนาจและหน้าที่ตามมาตรา 92 ซึ่งใช้คำว่า เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีหลักฐานอันควรเชื่อว่า มีพรรคใดกระทำการอันอาจจะเป็นการล้มล้างการปกครอง ให้เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา
“อันนี้เรามีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม และทางการออกมาวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ก็ใช้เวลาพอสมควร สิ่งที่เป็นหลักฐานเชื่อได้ว่า ก็คือคำวินิจฉัยของศาลนั่นเอง มีรายละเอียด มีข้อกฎหมายมีข้อเท็จจริง มีพยานหลักฐาน มีเอกสารประกอบ มีคำไต่สวนคำให้ถ้อยคำของผู้ที่เกี่ยวข้องเฉพาะฉะนั้นเราก็เห็นว่า มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าควรส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ” ประธาน กกต. กล่าว
เมื่อถามถึงระยะเวลาการทำคำร้องส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ นายอิทธิพร ตอบว่า กระบวนการทำคำร้องใช้เวลาโดยทั่วไปไม่เกิน 1 สัปดาห์เสร็จเมื่อไหร่ก็ยื่นเมื่อนั้น
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า กกต. มีใบสั่งในเรื่องนี้นั้น นายอิทธิพร ชี้แจงว่า ทำงานมาก็ทำตามกฎหมาย คนที่จะสั่งให้เราปฏิบัติหน้าที่ คือกฎหมายที่เขียนเอาไว้ หากมองตามรัฐธรรมนูญ ก็คือเราเป็นองค์กรอิสระหนึ่ง ที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เพราะฉะนั้นหากไม่ทำตามกฎหมาย ก็ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่
เมื่อถามว่าจากนี้มีคิวยื่นยุบพรรคการเมืองอื่นอีกหรือไม่ ประธาน กกต. กล่าวว่า ไม่อยากเรียกว่าเป็นคิว หากมีการเสนอเรื่อง และพิจารณาว่า พรรคการเมืองหรือผู้บริหารพรรคการเมืองใดกระทำการอันจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งจะนำไปสู่การต้องยื่นศาลที่เกี่ยวข้อง เราก็ดำเนินการตามนั้น ไม่ได้มีเฉพาะเจาะจงอะไร
ส่วนความคืบหน้าคดียุบพรรคภูมิใจไทย กรณีรับเงินบริจาค หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่นนั้น ประธาน กกต. กล่าวว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบของเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานของเลขาฯ กกต. ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ยังไม่ถึงขั้นที่จะสรุปความเห็นและนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต.
สำหรับกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ระบุว่า โทษของการยุบพรรคก้าวไกลอาจร้ายแรงถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตนั้น นายอิทธิพร อธิบายว่า
“ตามกฎหมายมาตรา 92 ถ้า กกต. ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรค กกต. สามารถยื่นขอให้ศาลพิจารณา เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ที่เป็นระยะเวลาคือ ถ้าขอให้ศาลสั่งไม่ให้ตั้งพรรคใหม่ หรือขอให้ศาลสั่งไม่ให้เป็นกรรมการบริหารพรรคอื่น อันนั้นมีกรอบเวลาว่า ศาลจะสั่งได้ไม่เกิน 10 ปี” ประธาน กกต. กล่าว
ทั้งนี้ กกต. จะดำเนินคดีอาญากับพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ต้องพิจารณาว่าการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายอื่นด้วยหรือไม่
มติเอกฉันท์ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรธน. สั่งยุบพรรคก้าวไกล ปมเสนอแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างฯ
