‘เศรษฐา’ พร้อมลุยรับไม้ต่อ ‘แพทองธาร’ ลงหาเสียงครั้งแรกที่คลองเตย ไม่หวั่น ‘ชูวิทย์’ พาดพิงคู่เขย ‘แสนสิริ’ มั่นใจไม่กระทบแคนดิเดตนายกฯ
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ พบปะประชาชนในชุมชน 70 ไร่ ล็อก1-3 เขตคลองเตย ครั้งแรกหลังรับตำแหน่งจากพรรคเพื่อไทยเป็นทางการ พร้อมกับ นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล (บิ๊กเบญ) ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตคลองเตย เขตวัฒนา พรรคเพื่อไทย
โดย นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรก และขอบคุณทีมงานที่ทำให้ตนได้มาลงพื้นที่และรับฟังปัญหา พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้นำชุมชนที่มีความคับแค้นใจในท้องที่ ยอมรับว่า พื้นที่คลองเตยเป็นปัญหาที่ซับซ้อน หลายมิติ ทั้งปัญหาของคนชุมชนคลองเตยมีทั้งเรื่องที่อยู่อาศัยปัญหายาเสพติด ปัญหาเรื่องสุขภาพ ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายสูงซึ่งเป็นปัญหาที่เยอะแยะไปหมด ซึ่งปัญหาใดที่สามารถทำได้ก็จะทำไปก่อน ปัญหาที่จำเป็นของคนคลองเตยได้สะท้อนกลับมานั้น เป็นปัญหาใหญ่ที่จะต้องมีการแก้ไขไปพร้อมกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ให้กำลังใจด้วยนั้น นายเศรษฐา ยอมรับว่า รู้จักกับนายชูวิทย์ แต่ไม่ใช่แค่ชูวิทย์คนเดียว เพื่อนฝูงคนที่รู้จักก็ให้กำลังใจ และหวังว่าจะเป็นตัวของตัวเอง รักษามาตรฐานที่ตัวเองทำไว้ ก็ต้องคอยดูกันต่อ
เมื่อถามว่า กังวลกับบทบาทนักแฉของนายชูวิทย์หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของท่าน แต่ละคนก็มีหน้าที่ต่างกันไป ณ วันนี้ตนมีหน้าที่ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มาช่วยให้คำแนะนำ น.ส.แพทองธาร และมาช่วยด้านนโยบาย ซึ่งน.ส.แพทองธาร ตั้งครรภ์มา 7 เดือน จะเข้าเดือนที่ 8 แล้ว ตนคงลงพื้นที่มากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นการกวดวิชาในระยะเวลาที่สั้น แต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
“ผมเป็นนักธุรกิจมาก่อน การเข้ามาสู่มิติใหม่ในช่วงชีวิตนี้ ถ้าผมจะบอกว่าไม่กลัวเลย คงเป็นการโกหก แต่ผมว่าถึงเวลาแล้ว หน้าที่ที่ผู้ชายคนหนึ่งสะสมประสบการณ์มา 30 กว่าปี อยากที่จะนำเสนอตัวเองในพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคที่มีนโยบายตรงใจประชาชนมาโดยตลอด ผมก็มั่นใจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ก็ขอโอกาสแล้วกัน” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ เปิดชื่อ ‘เบ้ง’ (นายทศพงศ์ จารุทวี) อยู่เบื้องหลังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ‘แสนสิริ’ นายเศรษฐา บอกว่า “คุณเบ้งไม่ได้เกี่ยวกับแสนสิริครับ คุณทศพงศ์เป็นคู่เขยผมครับ รู้จักกันมานาน 30 กว่าปี ผมเป็นนักธุรกิจมานาน 30 กว่าปี รู้จักคนเยอะครับ”
เมื่อถามว่า จะกระทบกับแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “มันขึ้นอยู่กับการวางตัวของผม ฝากดูช่วยความเป็นธรรมแล้วกัน ว่า ตรงไหนมีความไม่เหมาะสมหรือเปล่า”
ส่วนเมื่อถามว่า ถ้าไม่เป็นความจริงจะมีการฟ้องร้องหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ ไม่ได้มาค้าความ ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ศัตรูกับผมคือความยากจน ความเหลื่อมล้ำ อย่างที่เคยบอกไปแล้ว วันนี้ก็จะทำให้ดีที่สุด ยืนยันจะพยายามทำงานให้หนัก รวบรวมให้เพียงพอ ตอบโจทย์ของประชาชน”










