‘เศรษฐา’ ตั้งวงกินข้าวข้างคันนารับฟังชาวนาที่พระนครศรีอยุธยา ชี้แจงโอนหุ้น SIRI กว่า 661 ล้านหุ้นให้ลูกสาว ขณะที่ 17 มี.ค.นี้ เตรียมประกาศ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมโหฬาร

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย วันนี้ (10 มี.ค. 66) ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชาวนา ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งชาวนาได้ขอให้ราคาข้าวไม่ต่ำกว่าตันละ 10,000 บาทว่า ราคาเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น หากราคาข้าวแพง แต่ต้นทุนสูง เงินเข้ากระเป๋าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทต่อไร่ ซึ่งไม่มาก หน้าที่ของพรรคเพื่อไทย คือ ทำให้จำนวนเงินสุทธิที่จะเข้ากระเป๋าชาวนาเพิ่มขึ้น 3 เท่า ในช่วงเวลาที่เราเป็นรัฐบาล จาก 1,000 บาท ให้เป็น 3,000 บาท
โดยจะต้องทั้งเพิ่มราคาข้าว ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มผลิตผลไปด้วยกัน ซึ่งเรื่องปุ๋ย พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์สร้างผลผลิตในท้องถิ่นมาทดแทนปุ๋ยเคมีที่ราคาขึ้นลงตามราคาตลาดโลก และมีหลายปัจจัยมาควบคุม ซึ่งหากเราใช้ปุ๋ยอินทรีย์จะสามารถควบคุมอนาคตของตัวเราเองได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคงพูดเรื่อง 8 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ แต่ทราบถึงความคับแค้น และความอัดอั้นตันใจของชาวนาที่ประสบมาตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาว่า ชาวนาไม่มีความสุข ราคาพืชผลตกต่ำ หากถามว่า พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะทำได้หรือไม่ ต้องบอกว่า ตนมั่นใจว่าเราสามารถทำได้ เราแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี
เมื่อถามว่า พื้นที่อำเภอผักไห่เป็นพื้นที่รับน้ำก่อนหน้านี้ชาวบ้านจะต้องรับน้ำนานถึง 4 เดือน หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะมีวิธีการในการระบายน้ำให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตรงนี้ต้องดูยุทธศาสตร์โดยรวม ซึ่งต้องขอไปศึกษาก่อนว่า หากตรงนี้เดือดร้อนมากเรา ก็ต้องมีวิธีการที่จะบรรเทาความเดือดร้อนในส่วนนี้
เมื่อถามว่า วันที่ 17 มี.ค. จะมีการประกาศนโยบายใหม่เพิ่มเติมหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อันนี้ต้องรอดู เราจะมีการประกาศนโยบายใหญ่ซึ่งจะฮือฮา และกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมโหฬาร
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเคยมีอุบัติเหตุทางการเมืองเรื่องจำนำข้าวจะมีนโยบายต่างจากเดิมหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรามุ่งที่รายได้สุทธิที่จะเข้ากระเป๋าของชาวนา แต่จำนำข้าวเป็นเรื่องที่มุ่งไปที่ราคาพืชผล นโยบายของเราวันนี้ คือ นโยบายภาพรวมที่จะทำให้ชาวนามีเงินในกระเป๋าสูงกว่าเดิม 3 เท่า
เมื่อถามถึงการโอนหุ้นเพื่อเข้าสู่เวทีการเมือง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนได้โอนหุ้นให้ลูกสาวที่บรรลุนิติภาวะแล้ว อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยที่จะไม่เอาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือของบริษัทที่อยู่มาเกี่ยวข้องด้วย และผู้ที่ได้รับไปก็ต้องทำหน้าที่เสียภาษีตามกฏหมาย
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เผยแพร่ รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI โดย นายเศรษฐา ทวีสิน ตำแหน่งกรรมการ (กรรมการ/กรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองประธานกรรมการบริหาร) ระบุว่า นายเศรษฐาได้โอนหุ้น SIRI ทั้งหมด จำนวน 661,002,734 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.44% ของทุนจดทะเบียนบริษัท ให้แก่ น.ส.ชนัญดา ทวีสิน (บุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว) โดยเป็นการให้โดยเสน่หา ไม่มีค่าตอบแทน ทั้งนี้ ทำรายการแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 66










