ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ (27 ก.ค. 2565) อีก 0.75% ต่อเนื่องเป็นครั้งที่สอง ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นไปอยู่ที่ 2.25-2.50% หลังการประชุม
วัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้จะเป็นรอบที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 30 ปี และเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจฉุดเศรษฐกิจโลกให้เข้าสู่ภาวะถดถอย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.75% เพราะคาดว่า Fed จะค่อยๆ ชะลออัตราการขึ้นดอกเบี้ยลงเป็น 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไป (เดือน ก.ย.)
และคาดว่าอัตราการขึ้นดอกเบี้ยจะลดลงสู่อัตราปกติที่ 0.25% ในการประชุม 2 ครั้งสุดท้ายของปี (เดือน พ.ย. และ ธ.ค.) ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยนโยบายขึ้นไปอยู่ที่ 3.50% ณ สิ้นปีนี้
การทยอยลดอัตราการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed คาดว่าจะลดแรงส่งที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ในขณะที่ธนาคารกลางอื่นๆ กำลังเร่งขึ้นดอกเบี้ย เช่น ธนาคารกลางยุโรป ซึ่งเพิ่งขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.50% อย่างเหนือความหมายของตลาด
นอกจากนั้น คาดว่าระดับการเก็งกำไรค่าเงินดอลลาร์ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2560 ก็น่าจะกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มกลับมาอ่อนค่าลงในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า
สำหรับประเทศไทย คาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 10 ส.ค.นี้ จะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จากปัจจุบันที่ 0.50% เป็น 0.75% คาดว่าจะช่วยหนุนค่าเงินบาทให้กลับมามีเสถียรภาพถึงแข็งค่าขึ้น










