จากกรณีที่มีการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล ปี 2563 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม เป็นประธาน ซึ่งมีปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าร่วมเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการหารือเรื่องการชุมนุมทางการเมืองและการเตรียมการของภาครัฐด้วย

วันที่ 22 ส.ค. 2563 รายงานข่าวระบุว่า ที่ประชุมได้ยกสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองและการทำกิจกรรมของนักเรียนมาหารือ โดย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นห่วงเรื่องการกระทบกับสถาบันครอบครัวที่เป็นรากฐานของสังคมไทย รวมถึงการปลุกระดมด้วยการสร้างความเข้าใจผิดอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง จึงได้ให้เหล่าทัพไปดูเรื่องแนวทางในการสร้างเด็กยุคใหม่ โดยมองภาพในระยะยาว

ส่วนการชุมนุมจัดกิจกรรมของนิสิต นักศึกษา ที่มีอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายความมั่นคงยังคงติดตาม ขณะที่การชุมนุมใหญ่ วันที่ 19 ก.ย.ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จะไม่มีการห้ามหรือขัดขวางการจัดกิจกรรม เพราะถือเป็นสิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงความเห็น และน้ำกำลังเชี่ยวไม่ควรเอาเรือไปขวางแต่จะเฝ้าระวังไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายกฎหมายจากการปลุกระดมให้ใช้ความรุนแรง ทำลายหรือเผาสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ไปสู่ฮ่องกงโมเดล โดยกำชับให้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใช้ความอดทน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม

ทั้งนี้รัฐบาลให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งชี้แจง ทำความเข้าใจกับครอบครัว สถาบันการศึกษา อย่างไรก็ตาม มีการจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนจากต่างจังหวัดที่จะเข้ามาผนึกกำลังกับกลุ่มประชาชนปลดแอก โดยเฉพาะกลุ่มพีมูฟ ที่เรียกร้องกดดันให้รัฐแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร แรงงาน กลุ่มเปราะบางทางสังคม และมีลักษณะการปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ
ทั้งนี้ ในวันนี้ กลุ่มสมัชชาคนจน ได้ออกแถลงการณ์ว่า จะยังไม่เดินทางเข้ามาปักหลักชุมนุมในกรุงเทพฯ แต่สมาชิกของสมัชชาคนจนจะเข้าร่วมการชุมนุมในพื้นที่จังหวัดต่างๆ และหากมีกำหนดการชุมนุมครั้งใหญ่ในกรุงเทพฯ เมื่อใด สมัชชาคนจนจะเข้าร่วมชุมนุมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา แรงงาน และประชาชนผู้เรียกร้องระบอบประชาธิปไตยโดยทันที










