“สุริยะ” เผยคิงส์เกตฯ ขอเจรจาไทยหลังถูกปิดเหมืองทองคำ ก่อนขึ้นศาล พ.ย.นี้

“สุริยะ” เผยคิงส์เกตฯ ขอเจรจาไทยหลังถูกปิดเหมืองทองคำ ก่อนขึ้นศาล พ.ย.นี้

ในยุครัฐบาล คสช.ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งปิดเหมืองทองชาตรี ในจังหวัดพิจิตร ตามเสียงเรียกร้องของชาวบ้านที่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง ทำให้รัฐบาลต้องเตรียมต่อสู้คดีที่เอกชนฟ้องร้องว่าทำให้เสียหาย  โดย อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ นัดหารือครั้งแรกในเดือนพ.ย.นี้  แต่กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เอกชนติดต่อมาเพื่อขอเจรจา คงต้องจับตาดูว่า อะไรคือเงื่อนไข แลกกับการยุติข้อพิพาท

ความคืบหน้ากรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ที่ฟ้องร้องรัฐบาลไทย หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งปิดเหมืองแร่ทองคำ จังหวัดพิจิตร ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.62 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผู้บริหารบริษัท อัคราฯ ได้ติดต่อเข้ามา เพื่อขอเจรจาก่อนที่จะต้องขึ้นศาลในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี และในเรื่องนี้กระทรวงฯ มีทีมทนายดูแลอยู่แล้ว และในวันที่ 15 ส.ค.นี้ จะหารือประเด็นดังกล่าวกับกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เพื่อจะได้ทราบความคืบหน้า ข้อได้เปรียบเสียเปรียบก่อนหารือกับผู้บริหาร บริษัท อัคราฯ ต่อไป

ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารบริษัท อัคราฯ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เงื่อนไขการเจรจา คือประเด็นการชดเชยความเสียหายให้กับเหมืองอัคราฯ ตลอดระยะเวลาที่ถูกสั่งปิด ส่วนคิงส์เกตฯ จะลงทุนในไทยต่อไปหรือไม่นั้น จะต้องไม่ถูกรัฐบาลสั่งปิด โดยไร้ข้อพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ เพราะเคยถูกปิดมาแล้วถึง 2 ครั้งในปี 2558 ถูกสั่งปิด 45 วัน และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งหากการเจรจาเป็นที่ยอมรับทั้ง 2 ฝ่าย ก็พร้อมที่จะยกเลิกการฟ้องร้องประเทศไทย

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง