วันที่ 28 ต.ค. นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีสหรัฐอเมริกาจะตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือจีเอสพี สินค้าไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าอาหารทะเลว่า หากอ้างปัญหาสิทธิแรงงานประมงของไทยที่ไม่ได้รับการแก้ไขเพียงพอ เรื่องนี้ไม่มีความสมเหตุสมผล เนื่องจากในอดีตตอนที่ประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่เทียร์ 3 (ระดับ 3) ก็ยังไม่ถูกตัดสิทธิ์ดังกล่าว แต่ปัจจุบันไทยพัฒนาด้านแรงงานจนได้มาตราฐานสูงและสหรัฐอเมริกาได้เลื่อนชั้นไทยขึ้นมาอยู่เทียร์ 2 จึงไม่มีเหตุผลที่จะนำเรื่องแรงงานมาเป็นข้ออ้างในการจัดสิทธิ์จีเอสพี นอกจากนี้หากจะตัดสิทธิ์ก็ต้องตัดหมดทั้งภูมิภาคอาเซียนเพราะส่วนใหญ่อยู่เทียร์ 2
มงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ไทยยังเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีการรับอนุสัญญา C188 ในเรื่องการดูแลสิทธิแรงงานต่างๆ ไปแล้ว ขณะที่สหรัฐอเมริกาก็ยังไม่ได้รับอนุสัญญาดังกล่าวเลย จึงมั่นใจได้ว่าไทยมีมาตรฐานแรงงานสูงกว่าสหรัฐอเมริกา จึงเป็นข้อยืนยันว่าสิ่งที่สหรัฐอเมริกากล่าวหาไทยไม่ถูกต้อง ส่วนประเด็นให้มีการจัดตั้งสหภาพแรงงานต่างด้าวการรวมตัวเรียกร้องสิทธิ์ตามอนุสัญญา 87 และ 98 ตนเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาก็ไม่น่าจะมีการให้ต่างด้าวไปตั้งสหภาพแรงงาน เพราะจะเกิดปัญหาความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องอ่อนไหวของไทยเช่นกัน
นายมงคล กล่าวต่อว่า การตัดจีเอสพีมีผลกระทบต่อภาคประมงไทยน้อยมาก เพราะผลพวงจากการจัดระเบียบการทำประมง หรือไอยูยู ช่วงที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เรือประมงที่ออกไปจับปลาเหลือเพียง 7,000 – 8,000 ลำ ซึ่งหาปลามาบริโภคภายในประเทศไม่เพียงพอ จึงไม่มีการส่งออกปลาที่จับจากเรือประมงของไทยไปสหรัฐอเมริกา และที่ผ่านมาก็ต้องนำเข้าสินค้าประมงจากต่างประเทศปีละกว่า 30,000 – 40,000 ล้านบาท และยังต้องนำเข้าเพื่อแปรรูปส่งออกไป เช่น ปลาทูน่าถึง 99 เปอร์เซ็นต์ และอุตสาหกรรมแปรรูปส่งออกอาหารทะเลอื่นๆ เป็นต้น จึงมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อภาคประมงเท่าใดนัก
“มองว่า การตัดจีเอสพีของ สหรัฐอเมริกาครั้งนี้ จากการวิเคราะห์จากหลายฝ่าย สาเหตุหลักเกิดจากรัฐบาลไทยไปแบน 3 สารเคมีที่จะส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการที่สหรัฐกำหนดเวลาอีก 6 เดือน เป็นการเปิดช่องให้รัฐบาลไทยต่อรองการยกเลิกการตัดจีเอสพี เพื่อประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาเอง ซึ่งก็เชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาได้เพราะรัฐบาลนี้ก็มาจากการเลือกตั้งจึงไม่น่ามีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง”
