ที่มา : การเคหะแห่งชาติ
หลังจากที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. มีมติเห็นชอบมาตรการลดภาระค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมกรณีอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ
โดยให้ลดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนในการทำธุรกรรมการซื้อที่ดินและอาคารที่อยู่อาศัยจากเดิมร้อยละ 2 ของราคาประเมินทุนทรัพย์เหลือร้อยละ 0.01 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดจากเดิมร้อยละ 1 ของมูลค่าที่จำนอง เหลือร้อยละ 0.01
เงื่อนไขคือ ต้องเป็นที่อยู่อาศัยไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อหน่วย หากราคาซื้อขายเกินกว่านั้นจะไม่ได้รับสิทธิการลดค่าธรรมเนียม โดยผู้รับจำนอง (ผู้ให้กู้) ต้องเป็นสถาบันการเงินเท่านั้น และการจดทะเบียนการโอน และการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย ต้องดำเนินการในคราวเดียวกัน คาดว่าจะใช้งบประมาณรวม 1,700 ล้านบาท
ที่มา : การเคหะแห่งชาติ
นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า มาตรการนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่ 24 มิ.ย. 2562 – 23 มิ.ย. 2563 รวมระยะเวลา 1 ปี ซึ่งลูกค้าของการเคหะแห่งชาติจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย โดยการปรับลดค่าธรรมเนียมจะครอบคลุมการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยและจดจำนอง ที่มีราคาซื้อขายไม่เกิน 1 ล้านบาท ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและบ้านแถวจากเดิมร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 ส่วนกรณีห้องชุด จากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 ของราคาประเมิน
เชื่อว่ามาตรการนี้นอกจากจะช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังด้วย สำหรับกลุ่มลูกค้าของการเคหะแห่งชาติ มีลูกค้าที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ 50,000 รายทั่วประเทศ ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 32,000 ราย และต่างจังหวัด 18,000 ราย
