วันที่ 18 พ.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลของทางการญี่ปุ่นแจ้งวันนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 4 ปีครึ่ง ทำให้ประเทศกำลังเดินหน้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหลังสงครามที่รุนแรงที่สุดเนื่องจากวิกฤตโคโรนาไวรัส ที่กำลังทำลายธุรกิจและผู้บริโภค
เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก หดตัวลง 3.4% ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรก และรุนแรงในรอบ 4 ปีครึ่ง หรือตั้งแต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2015 และเกิดขึ้นหลังจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้วลดลงถึง 6.4% ทำให้ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยเชิงเทคนิค
ข้อมูลจีดีพี ชี้ให้เห็นผลกระทบในวงกว้างของการระบาด โดยการส่งออกดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคม 2011 ในขณะที่มาตรการล็อคดาวน์ทั่วโลก และการหยุดชะงักของซัพพลายเชน กระทบการส่งออกสินค้าญี่ปุ่น
กผู้รับบริโภคยังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสองปัจจัย ทั้งการที่รัฐบาลปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 8% เป็น 10% ในเดือนตุลาคม และวิกฤตโรคโควิด-19 โดยปกติแล้วมูลค่าการบริโภคดังกล่าวคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 165 ล้านล้านบาท การลงทุนทุนร่วงลงอย่างหนัก ด้านตัวเลขส่งออกทรุดหนักที่ -6% ส่งผลให้เป็นการตกต่ำถึง 2 ไตรมาสติดกัน
ญี่ปุ่นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านเยน หรือราว 299,120 ล้านบาท หลังจากการท่องเที่ยวลดลงมากถึงร้อยละ 90 อุตสาหกรรมและการค้าหยุดนิ่ง โควิด-19 ยังทำให้การบริโภคภาคเอกชนลดลง 0.7% จากไตรมาสก่อน การลงทุนของครัวเรือนและธุรกิจลดลงร้อยละ 0.8% และ 0.5% ตามลำดับ









