วันที่ 5 พ.ค. นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus) ธนาคารกสิกรไทย แถลงมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่าน 2 มาตรการ คือ เบี้ยรบพิเศษสำหรับนักรบเสื้อกาวน์ และ สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี
นายบัณฑูร กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิดกระทบทั้งสุขภาพของประชาชนและความชะงักงันของระบบเศรษฐกิจทำให้เกิดความเดือดร้อนหลากมิติในทุกแวดวง ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะนิติบุคคลที่อยู่ในแผ่นดินนี้จึงจะเสนออีก 2 มาตรการที่ช่วยบรรเทาปัญหาในบางจุด
โครงการแรก มุ่งไปที่บุคลากรทางการแพทย์ ที่เสี่ยงภัยที่สุดและเหนื่อยที่สุดต้องทำงานไม่มีวันหยุด คือ “เบี้ยรบพิเศษสำหรับนักรบเสื้อกาวน์” โดยยืมคำทางทหารมาใช้เพราะบุคลากรทางการแพทย์อยู่ในสนามรบที่เสี่ยงตาย จึงต้องการให้กำลังใจและให้ได้ค่าตอบแทนทางการเงินด้วย .
โดยมูลนิธิกสิกรไทย จะใช้งบประมาณ 300 ล้านบาทสนับสนุนรายได้เพิ่มเติมให้บุคลากรทางการแพทย์ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่หนักที่สุด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สตูล รวมโรงพยาบาล 45 แห่ง จะได้รับคนละ 4,000 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือนแล้วจะมีการประเมินอีกครั้ง มีบุคลากรที่จะช่วยได้รวม กว่า 20,000 คนเป็นการให้เลยเพื่อขอบทุนแทนคนไทยทั้งประเทศ เริ่มทันทีปลายเดือนนี้เมื่อได้รายชื่อทั้งหมด
โครงการที่ 2 คือกรณีธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบการค้าขายสะดุด จะช่วยเพิ่มเติมจากมาตรการภาครัฐเพื่อช่วยประคองธุรกิจ ด้วยโครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” เป็นเงินกู้สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็กเพื่อให้สามารถจ้างพนักงานต่อไปได้ มีอัตราดอกเบี้ย 0% สิ่งสำคัญของโครงการนี้ คือ การเข้าไปช่วยเหลือพนักงานให้ยังมีงานทำและมีเงินเดือนเพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว โดยพนักงานแต่ละคนจะได้เงินคนละ 8,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ธนาคารได้เตรียมวงเงินสินเชื่อสำหรับโครงการนี้ไว้ 1,000 ล้านบาท และทำให้เกิดการจ้างงานพนักงานกว่า 41,000 คน กว่า 1,000 บิรษัทต่อไป ธนาคารยอมสูญเสียรายได้เพื่อให้คนในสังคมส่วนหนึ่งอยู่รอด เพราะการที่ทุกคนจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ จะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คนที่มีต้องช่วยคนที่ไม่มี ถ้าทุกคนช่วยกันประเทศไทยก็จะสามารถฝ่าฟันและผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน
โครงนี้จะเป็นการเชิญลูกค้าเอสเอ็มอีรายเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 200 คน และมีการใช้บริการกับธนาคารมานานหลายปีเข้าร่วมโครงการ เจ้าของธุรกิจต้องเป็นคนดี เป็นนักสู้ที่พยายามต่อสู้เพื่อนำพาธุรกิจและพนักงานรอดไปด้วยกัน
เงินกู้เพื่อจ้างพนักงาน อัตราดอกเบี้ย 0% ฟรีค่าธรรมเนียมทุกประเภท ไม่ต้องมีหลักประกัน ระยะเวลากู้ 10 ปี และไม่ต้องผ่อนชำระคืนเงินกู้ 1 ปี เพื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอีรายเล็กมีเงินทุนในการจ้างพนักงานให้พวกเขามีรายได้และอยู่รอด โดยวงเงินกู้ของแต่ละบริษัทนั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนพนักงาน ทั้งนี้ธนาคารจะมีกระบวนการตรวจสอบได้ว่าเงินได้เข้าบัญชีพนักงานทุกคนจริง
“เป็นการช่วยซื้อเวลาให้คนที่มีศักยภาพสูง ถ้าเราไม่ต่อลมหายใจเขาตอนนี้เขาก็ล้มไปเลยซึ่งน่าเสียดาย ระบบเศรษฐกิจควรจะมีธุรกิจเล็กๆ ที่ประสบความสำเร็จด้วย จึงเป็นที่มาของการคัดคนที่เดิมเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ตอนนี้เขาเจอเหตุการณ์สุดวิสัย ซึ่งถ้าเขาทุนไม่หนาก็ต้องล้มหายตายจากกันไปซึ่งน่าเสียดาย”
“สินเชื่อดอกเบี้ย 0% เพื่อให้ไปจ่ายเงินเดือนพนักงานของเอสเอ็มอี ให้พักชำระหนี้ 1 ปี จากนั้นยังไม่มีชำระจะให้โอกาส 10 ปี มีช่วยเอามาจ่ายหน่อย 10 ปีถ้ายังไม่ชำระให้ไปจ่ายชาติหน้า ยกยอดไปไม่เป็นไร”
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน เม.ย. ธนาคารกสิกรไทยได้เปิดตัวโครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” ซึ่งยังอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยร่วมมือกับเจ้าของกิจการในการช่วยเหลือพนักงานที่มีเงินเดือนน้อยให้อยู่รอดได้ โดยมีจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง มีความคืบหน้าในการรักษาการจ้างพนักงานได้กว่า 2,000 คน จากที่ตั้งเป้าไว้ 3,000 คน คิดเป็นเกือบ 70% ของเป้า และธนาคารยังช่วยลดดอกเบี้ยบนเงินกู้เดิมที่ผู้ประกอบการมีกับธนาคาร คิดเป็นมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
