กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะให้บริการ Buy Now, Pay Later ภายในไตรมาส 2 ปีนี้ จุดเด่นคือไม่ต้องยื่นสลิปเงินเดือน แต่จะใช้ข้อมูลทางเลือก เช่น การใช้ Facebook ของเรา เป็นตัววิเคราะห์ความเสี่ยงแทน
‘ณญาณี เผือกขำ’ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยว่า ในไตรมาส 2 ปีนี้ (2566) บริษัทฯ จะออกโปรแกรม Buy Now, Pay Later (BNPL) หรือ ซื้อก่อนผ่อนทีหลังร่วมกับร้านค้าต่างๆ ซึ่งคนที่ไม่เคยมีบัตรเครดิตของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก็สามารถใช้บริการได้
จุดเด่นของ Buy Now, Pay Later คือ สมัครออนไลน์บนมือถือได้ ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือนหรือยื่นเอกสารเหมือนการสมัครบัตรเครดิต เพราะบริษัทฯ จะใช้ข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) มาวิเคราะห์ก่อนอนุมัติเงินแทน เช่น การใช้งาน Facebook ซึ่งมีข้อมูลเชิงลึกบางอย่างที่ช่วยประเมินความเสี่ยงของลูกค้าได้
ปัจจุบันกรุงศรี คอนซูมเมอร์ อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดสุดท้ายของโปรแกรม เช่น หากวงเงินสินเชื่อที่ขอค่อนข้างสูง จะต้องตรวจเครดิตบูโรหรือไม่ ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ เช่น คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยมีบัตรเครดิต แต่มีกำลังจะผ่อนชำระ ก็อาจไม่มีข้อมูลในส่วนนี้
รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ เช่น จำนวนเดือนที่ลูกค้าแต่ละคนจะต้องผ่อนชำระ หรือการคิดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย เป็นต้น
ทั้งนี้ คาดว่าโปรแกรม Buy Now, Pay Later จะช่วยเพิ่มโอกาสในการหาลูกค้าใหม่ เพราะคนที่ไม่มีบัตรเครดิตของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก็สามารถใช้บริการได้ ซึ่งในอนาคตอาจต่อยอดไปยังบริการ เช่น บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลได้อีกด้วย
สำหรับตลาดซื้อก่อนผ่อนทีหลัง คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารกรุงศรีฯ คาดว่ามูลค่าการซื้อขายแบบ Online BNPL ทั่วโลกจะเติบโตสูงถึง 50% (ระหว่างปี 2562-2569) ซึ่งไทยถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยผลสำรวจชี้ว่าคนไทยกว่า 89% คุ้นเคยกับโปรแกรม Buy Now, Pay Later เป็นอย่างดี
ก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ย. 2565 กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ออกโปรแกรม ‘0% Pay Later เริ่มผ่อนเดือนที่ 3’ สำหรับลูกค้าปัจจุบัน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี สะท้อนจากยอดสินเชื่อที่อนุมัติไปแล้วกว่า 45 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน (พ.ย. 2565 – ก.พ. 2566)
สำหรับยอดรวมของปี 2565 ลูกค้ากรุงศรี คอนซูมเมอร์ เข้ามาใช้บริการ Buy Now, Pay Later ดังกล่าวแล้วกว่า 44,000 ราย หรือคิดเป็นจำนวนธุรกรรมมากกว่า 181 ล้านธุรกรรม
เมื่อถามถึงความเสี่ยงหนี้เสีย (NPL) จากการทำโปรแกรมดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อกังวลของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เช่นกัน ประธานของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ อธิบายว่า
บริษัทฯ เข้าใจความเสี่ยงว่าคนไทยมีหนี้ในมือค่อนข้างเยอะ แต่เนื่องจากโปรแกรม Buy Now, Pay Later ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ไม่ได้โฟกัสกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย วงเงินที่คาดการณ์เอาไว้เบื้องต้นไม่ได้สูงมาก เช่น หากจะใช้ซื้อโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง วงเงินก็คงไม่ถึง
ประกอบกับฐานลูกค้าที่คาดการณ์เอาไว้เบื้องต้น เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน จึงคาดว่าแนวโน้ม NPL ของบริษัทฯ จะยังทรงตัว แต่ในส่วนของการตัดหนี้เสีย ยังคล้ายกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ คือ หากค้างชำระนาน 3-6 เดือน ก็จะถูกตีตกเป็น NPL
