‘สุชาติ ชมกลิ่น’ พร้อม ‘นฤมล ภิญโญสินวัฒน์’ เข้ากระทรวงแรงงานวันแรก ประกาศตั้ง ‘ศูนย์อำนวยการงานแห่งชาติ’ เร่งแก้ปัญหาคนตกงาน
วันที่ 14 ส.ค. 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่งที่กระทรวงแรงงานอย่างเป็นทางการ โดยนายสุชาติ กล่าวถึงนโยบายเร่งด่วน คือการตั้งศูนย์อำนวยการแรงงานแห่งชาติ ซึ่งตนจะเป็นประธาน และทำงานร่วมกับรัฐมนตรีช่วย เป็นการบูรณาการทำงานภายในหน่วยงานและภายนอกกระทรวง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงศึกษาธิการ และหารือกับคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เพื่อให้ทุกหน่วยงานช่วยกันทำงานในเชิงรุก พร้อมน้อมนำแนวเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ จะมีการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันทุกหน่วยงาน เช่น การ Matching ระหว่างคนว่างงานกับการมีงานทำ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่จบใหม่ และคนว่างงาน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่จบใหม่และคนว่างงานที่จะได้งานทำอย่างเหมาะสม ซึ่งรวมถึงคนไทยที่ยังว่างงานอยู่ที่จะเป็นที่จะต้องทำในเรื่องของการ อัพสกิล-รีสกิล เพื่อให้มีทักษะการทำงานที่สูงขึ้น ขณะที่ตลาดต่างประเทศต้องการคนทำงานช่างเชื่อม ซึ่งคนไทยมีทักษะในเรื่องนี้ดี รวมถึงการเสริมทักษะอาชีพ และภาษาต่างประเทศด้วย ตลอดจนการพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ทันสมัยมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการปราบปรามการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาแรงงานในภาคประมง โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทย ขึ้นมาอยู่ในระดับเทียร์ 1 ให้ได้ ส่วนที่เจ้าของสวนจังหวัดจันทบุรี ต้องการนำแรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงาน แต่ขณะนี้ยังนำเข้ามาไม่ได้ เกรงการระบาดของโรค อยากให้ข้าราชการทำความเข้าใจกับเจ้าของสวน
สำหรับการเลิกจ้าง ที่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบจากโควิด-19 รมว.แรงงาน กล่าวว่า ให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันการตกงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อยากให้ข้าราชการในส่วนภูมิภาค ลงพื้นที่ให้คำแนะนำกับนายจ้างให้เข้าถึงมาตรการการช่วยเหลือของรัฐในเรื่องต่างๆ ที่เป็นช่องทางของการพยุงธุรกิจและเกิดการจ้างงาน
นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า ตนไม่ได้มาเป็นนาย แต่มาเป็นผู้รับใช้แรงงาน โดยจะตั้งใจทำงาน และจะทำตามระเบียบของกฎหมาย เพื่อให้เกิดแนวทางที่ถูกต้องไม่ให้เกิดปัญหากับราชการ ทั้งนี้เชื่อว่า ภายหลังจากการพูดคุย และกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกันแล้ว จะมีความชัดเจนภายใน 1 – 2 เดือน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งในวันจันทร์ที่ 17 ส.ค. เวลา 14.00 น. จะประชุมมอบนโยบายแก่ผู้บริหารประทรวง
