กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เตรียมเรียก ‘รมว.ชัยวุฒิ’ แจงปมออกประกาศคุมโซเชียล ให้อำนาจลบเนื้อหาผิดกม. ใน 24 ชม.

กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เตรียมเรียก ‘รมว.ชัยวุฒิ’ แจงปมออกประกาศคุมโซเชียล ให้อำนาจลบเนื้อหาผิดกม. ใน 24 ชม.

การเมือง

ส.ส.ก้าวไกล โวย ‘ดีอีเอส’ ออกประกาศกระทรวง ‘ลักไก่’ ระบุให้อำนาจลบข้อมูลในโซเชียลภายใน 24 ชม. แบบไร้การโต้แย้ง เตรียมเรียก ‘รมว.ชัยวุฒิ’ แจง

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมด้วย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. เขตบางแค พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับการนำข้อมูลออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรวมถึงโซเชียลมีเดีย ต้องลบข้อมูลที่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ออกจากระบบภายใน 24 ชั่วโมง หลังบุคคลทั่วไปร้องเรียน โดยประกาศฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 65 เป็นต้นไป

นายณัฐชา กล่าวว่า ประเด็นหลักของประกาศนี้คือการควบคุมเนื้อหาในโซเชียลมีเดีย มีลักษณะปิดปากประชาชน โดยประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ คือคำสั่งที่ให้ลบข้อมูลภายใน 24 ชั่วโมง โดยที่ต้นสังกัดของข้อมูลไม่สามารถโต้แย้งได้ เป็นเรื่องน่ากังวลต่อสิทธิเสรีภาพในสังคมไทย เพราะโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่พูดคุยของประชาชน และหลายครั้งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนใช้สื่อสารถึงหน่วยงานรัฐ หากประกาศนี้มีผลใช้บังคับ จะกระทบต่อหลายหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาล และอาจลิดรอนสิทธิของประชาชน ดังนั้น ตนในฐานะประธาน กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ ได้เตรียมเรียกให้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่กระทรวงดีอี รวมถึงเชิญตัวแทนภาคประชาสังคมและผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากประกาศ มาชี้แจงและร่วมหารือ หากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย จะดำเนินการเพื่อถอดถอนประกาศต่อไป

“หลายครั้งการทำงานของกระทรวงดีอี ตั้งใจพิทักษ์ข้อมูลข่าวสารของฝ่ายรัฐบาล ที่ผ่านมา กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ ได้รับร้องเรียนจากพี่น้องสื่อมวลชนว่าไม่สามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการทำข่าว ประกาศกระทรวงฉบับนี้ แม้ยังไม่ถูกบังคับใช้ แต่ก็ไม่สามารถทราบได้เลยว่าจะถูกใช้ในลักษณะใด เสมือนเป็นอาวุธอีกหนึ่งชิ้นเพื่อปิดปากพี่น้องประชาชนที่เคลื่อนไหวในปัจจุบัน ถือเป็นความไม่สง่างามในทางประชาธิปไตยอย่างยิ่ง” นายณัฐชากล่าว

ด้าน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การออกประกาศกระทรวงแบบลักไก่ ไม่ผ่านรัฐสภาเช่นนี้ เป็นเรื่องน่ากังวล ตนเห็นการทำงานของกระทรวงดีอีมาตลอด หากตรวจสอบประกาศกฎหมายย้อนหลังตั้งแต่ปี 2560 – 2565 จะเห็นความพยายามใช้อำนาจรัฐเพื่อควบคุมเนื้อหาและปิดปากประชาชนบนโลกออนไลน์มากขึ้น โดยประกาศฉบับนี้มีข้อน่าสังเกต 3 ประการ ประการแรกคือการให้อำนาจเจ้าหน้าที่กระทรวงดีอีสั่งเพิกถอนสื่อในโซเชียลมีเดีย ต่างจากประกาศเดิมเมื่อปี 2560 ที่แม้มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน แต่ไม่ได้ระบุเรื่องนี้ ประการที่สอง คือเรื่องระยะเวลา จากเดิมประกาศปี 2560 ให้เวลา 7 วันในการนำข้อมูลเท็จออกจากระบบ แต่ประกาศล่าสุดให้เวลาเพียง 24 ชั่วโมง อีกทั้งไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของข้อมูลโต้แย้งได้

ดังนั้น ผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง ที่ต้องการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ อาจใช้ประกาศฉบับนี้ปิดปากประชาชนได้ และประการที่สาม คือเนื้อหาของร่างอาจขัดรัฐธรรมนูญ เพราะข้อ 9 ในประกาศระบุชัดเจนว่าหากเจ้าของแพลตฟอร์ม ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ให้ถือว่ามีความผิดด้วย ซึ่งมีความเสี่ยงว่าจะขัดกับมาตรา 29 ของรัฐธรรมนูญ ที่รับรองหลักสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ (presumption of innocent) ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน

ภาพจาก : พรรคก้าวไกล

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง