ใกล้เข้าสู่ช่วงเปิดใช้สิทธิ “คนละครึ่งพลัส” เต็มรูปแบบแล้ว โดยในรอบนี้ประชาชนจะสามารถสั่งอาหารผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ซึ่งนอกจากส่วนลดจากรัฐแล้ว แต่ละแพลตฟอร์มยังงัดกลยุทธ์และสิทธิประโยชน์ออกมาดึงร้านค้าเข้าร่วมโครงการอย่างเข้มข้น เพราะร้านค้าสามารถเลือกลงทะเบียนกับแพลตฟอร์มเดลิเวอรีได้ เพียงแพลตฟอร์มเดียว เป็นกฎที่กำหนดโดยกระทรวงการคลัง
ฝั่ง LINE MAN ซึ่งเป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์หลักของโครงการคนละครึ่งพลัส หลังเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนวันแรก (3 พ.ย.) LINE MAN มียอดร้านเข้าร่วมกว่า 32,990 ร้านค้า (ข้อมูล ณ 4 พ.ย. เวลา 01.00 น.) ถือเป็นอันดับ 1 ในบรรดาแพลตฟอร์มเดลิเวอรีทั้งหมด ตามข้อมูลจากกระทรวงการคลังซึ่งรายงานว่ามีร้านค้าเข้าร่วมฟู้ดเดลิเวอรีแล้วรวมกว่า 40,722 ราย และกว่า 22,831 รายเลือกใช้ LINE MAN เป็นช่องทางหลัก
‘อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์’ รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ LINE MAN Wongnai เล่าให้ฟังว่า ในรอบที่แล้วคนละครึ่งมาในช่วงยุคโควิด ร้านค้าจำนวนมากที่ไม่เคยขายออนไลน์มาก่อน ได้เริ่มขายออนไลน์/เดลิเวอรีเป็นครั้งแรกผ่านโครงการคนละครึ่ง ร้านอาหารทั่วประเทศที่สมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งสำหรับบริการเดลิเวอรี มีจำนวนรวมกลมๆ ประมาณ 100,000 ร้านค้า
LINE MAN เป็นอันดับ 1 ในการให้บริการเดลิเวอรีสำหรับคนละครึ่งในเฟสที่ผ่านมา โดย 65% ของร้านอาหาร ที่เข้าสู่ระบบเดลิเวอรีของโครงการเลือกใช้ LINE MAN (อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงการคลัง)
โดยในรอบนี้ LINE MAN ให้สิทธิประโยชน์สนับสนุนร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ อัตราค่าธรรมเนียม (GP) พิเศษเพียง 7% สำหรับร้านค้าที่ลงทะเบียนวันแรก, GP 9% ตลอดระยะเวลาโครงการ พร้อมสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย และขยายฐานลูกค้า
ส่วนฝั่งของกลุ่มลูกค้า LINE MAN ออกแบบระบบสลับแอปพลิเคชัน (ระหว่างแอปเดลิเวอรีกับแอปเป๋าตัง) ให้ใช้งานได้ง่ายที่สุด (UI/UX) ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งผู้ใช้งานและร้านค้า
นอกจากนี้ LINE MAN ยังเตรียมทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท อัดแคมเปญโปรโมชันใหญ่ในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ เพื่อดึงผู้ใช้สิทธิคนละครึ่งเข้าสู่แพลตฟอร์มมากที่สุดในตลาด พร้อมยกระดับประสบการณ์สั่งอาหารออนไลน์ให้ “คุ้มกว่า–เข้าถึงง่ายกว่า”
