ครม. เห็นชอบเงินกู้ให้รัฐบาลเมียนมาแบบเงื่อนไขผ่อนปรน วงเงิน 1,458 ล้านบาท

วันที่ 14 ก.ค. 2563 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้อนุมัติเงินกู้แบบเงื่อนไขผ่อนปรน วงเงิน 1,458 ล้านบาท ให้กับประเทศเมียนมา เพื่อไปปรับปรุงระบบไฟฟ้า ที่เมืองย่างกุ้งโดยสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ โดยเป็นการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ในรูปแบบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน มีรายละเอียดดังนี้ งบประมาณวงเงิน 729 ล้านบาท จะขอจัดสรรงบประมาณเป็นรายปี รวม 3 ปีตั้งแต่ปี 2564 – 2566 อีกส่วน 729 ล้านบาท จะให้ทาง สพพ. กู้จากสถาบันการเงินภายในประเทศ ระยะเวลาเงินกู้ 5 ปี เพื่อหาผู้เสนอเงื่อนไขที่ดีที่สุด ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ทั้งนี้ เงินกู้ที่จะให้กับทางรัฐบาลเมียนมา จะคิดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1.50 ต่อปี อายุสัญญา 30 ปี รวมระยะเวลาปลอดหนี้ 10 ปี เมื่อเราให้เงินกู้ทางรัฐบาลเมียนมา เราได้กำหนดว่า จะต้องใช้สินค้าและบริการจากประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าสัญญา ขณะที่ผู้รับเหมาก่อสร้างและวิศวกร ที่ปรึกษา ต้องเป็นนิติบุคคล สัญชาติไทย และกฎหมายที่ใช้บังคับตามสัญญาเงินกู้ฉบับนี้ต้องเป็นกฎหมายไทย
“เพราะฉะนั้นประโยชน์จากการช่วยเหลือทางการเงิน กับประเทศเมียนมาในครั้งนี้ แบ่งเป็นเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศและสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ยังเป็นการสนับสนุนการผลิตการค้าและบริการของผู้ประกอบการไทย รวมถึงนำไปสู่การจ้างงาน ในประเทศไทย และเอื้อประโยชน์ให้กับนักลงทุนชาวไทยให้เข้าไปลงทุน ในประเทศเมียนมามากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากเงื่อนไขเงินกู้ที่ได้กำหนดให้ต้องใช้วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ จากประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และผู้รับเหมา ก่อสร้าง วิศวกร ควบคุมงาน จะต้องมาจากประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินโครงการ”
รองโฆษกรัฐบาล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเมียนมาเป็นประเทศที่มีนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนอยู่เป็นอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์และจีน มีมูลค่าการลงทุน สิ้นปี 2562 จำนวน 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นร้อยละ 13.66 ของมูลค่ารวมการลงทุนทางตรงในเมียนมา










