ตลาดการเงินโลกปั่นป่วน หลังจากที่สหรัฐประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค.ที่ 8.6% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี ทำให้ตลาดกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง
เหตุการณ์นี้ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงหนัก รวมถึงราคาน้ำมันและบิตคอยน์ มีเพียงทองคำเท่านั้นที่ทะยานขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ร่วงหนักถึง 880 จุด เช่นเดียวกับ S&P 500 ที่ร่วง 117 จุด ส่วน NASDAQ ก็ปรับลงเช่นกันที่ 414 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ตลาดหุ้นอังกฤษร่วงกว่า 159 จุด ตลาดหุ้นเยอรมัน 437 จุด และตลาดหุ้นฝรั่งเศส 171 จุด
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้ ตลาดหุ้นไทยร่วง 25 จุด ตลาดหุ้นฮ่องกง 618 จุด ตลาดหุ้นญี่ปุ่น 735 จุด และตลาดหุ้นเกาหลี 75 จุด
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สของสหรัฐยังปรับลงเกือบ 300 จุด สะท้อนว่าตลาดหุ้นสหรัฐในคืนนี้มีโอกาสปรับตัวลงจากความกังวลเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง
ส่วนตลาดน้ำมันโลก ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับลง 1.06 เหรียญ ส่วนเวสต์เท็กซัส (WTI) ย่อตัวลงมาอยู่ที่ 120 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 84 เซนต์
ส่วนตลาดคริปโตฯ ก็ร่วงลงแรงเช่นกัน โดยคริปโตฯ สกุลหลักอย่าง ‘บิตคอยน์’ ราคาร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน
อ้างอิงจากการการซื้อขายบนกระดานเทรด Binance บิตคอยน์ ณ เวลา 10.54 น. มีราคาอยู่ที่ระดับ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงกว่า 7.4% จาก 24 ชั่วโมงก่อนหน้า และเป็นราคาที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2020
ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่บิตคอยน์เท่านั้น แต่คริปโตฯ สกุลอื่นๆ ก็ราคาร่วงลงด้วยเช่นกัน อย่างอีเธอเรียมบนกระดานเทรด Bitkub ราคาก็ร่วงลงกว่า 8.5% และยังคงมีการเทขายจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางความผันผวนในครั้งนี้ มีเพียงราคาทองคำเท่านั้นที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรง โดยราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 22.70 เหรียญ มาอยู่ที่ 1,876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่สามารถพักเงินในช่วงตลาดปั่นป่วน










