เว็บไซต์ The Information รายงานข่าววงในจาก Open AI ผู้พัฒนาโมเดล ChatGPT ต้องกดปุ่มฉุกเฉินประกาศภาวะ “Code Red” ในบริษัททันที เพราะเสียท่าให้คู่ปรับตลอดกาลอย่าง Google
ช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งสองบริษัทเปิดตัวโมเดลเวอร์ชั่นใหม่ ไล่เลี่ยกันคือ Open AI เปิดตัวโมเดล GPT 5.1 ส่วน Google เปืดตัวโมเดล Gemini 3
โมเดล GPT 5.1 มีไฮไลต์ อยู่ที่ปรับปรุงจากเวอร์ชั่นก่อนให้มีชีวิตและเป็นมนุษย์มากขึ้น ไม่ได้เน้นแค่ความฉลาดแบบดิบๆ แต่เน้นความลื่นไหลในการสนทนา และยังมีบุคลิกให้เลือกตั้งค่าหลากหลาย ถือเป็นโมเดลที่ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่า คัสตอมให้เข้ากับการใช้งานของตัวเองได้ดี
หลังจากนั้นไม่นาน Google ก็สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Gemini 3 ที่ฉลาดล้ำ จนกวาดแชมป์บนกระดานคะแนน Leaderboards แทบทุกสำนัก และได้รับคำชมอย่างถล่มทลาย โดยเฉพาะโมเดล gen ภาพอย่าง Nano Banana ที่สร้างภาพได้งานละเอียดขึ้นอย่างมาก ปิดจุดอ่อนอย่างการ gen ข้อความได้ผิดพลาดน้อยลง สร้างอินโฟกราฟิกซับซ้อนได้ภายในไม่กี่นาที
The Information รายงานด้วยว่าหลังจาก Google ปล่อย Gemini 3 ยอดผู้ใช้งาน GPT ก็ร่วงกรูด แค่สัปดาห์เดียวที่ Gemini 3 เปิดตัว ยอดคนเข้าใช้ ChatGPT หายไปถึง 6% จาก 203 ล้าน เหลือ 191 ล้านครั้งต่อวัน เท่ากับว่าลูกค้าหายไปวันละ 12 ล้านคน
ในบันทึกข้อความภายใน พบว่า Nick Turley หัวหน้าทีม ChatGPT ออกมาประกาศทิศทางใหม่ทันที โดยเน้น 3 เรื่องหลักคือ ทำให้ ChatGPT เก่งขึ้น ขยายให้คนทั่วโลกเข้าถึงได้มากขึ้น และสำคัญที่สุดคือต้องทำให้รู้สึก เป็นธรรมชาติและรู้ใจผู้ใช้แบบสุดๆ เพื่อแก้จุดอ่อนเรื่องความแข็งกระด้าง
แม้ OpenAI จะเป็นผู้เปิดประตูยุค AI จากการเปิดตัว ChatGPT ในปี 2022 แต่สงครามรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนเก่า การเสียผู้ใช้งานวันละ 12 ล้านคนคือสัญญาณเตือนภัยระดับวิกฤตเพราะคู่แข่งคือ Google ที่มีทั้งความฉลาดของ Gemini 3 และ Ecosystem ที่ฝังรากลึกในชีวิตเราอย่าง Gmail, Docs จุดตัดสินของเกมนี้อาจไม่ใช่แค่ว่า AI เจ้าไหนฉลาดกว่า แต่คือใครอยู่ในชีวิตเรามากกว่ากัน
