กลายเป็นกระแสอีกแล้ว หลังจากล่าสุด Apple Music อัปเดตยกใหญ่พร้อมกับการปรับปรุงดีไซน์ Liquid Glass ที่ขยายครอบคลุมทั่วระบบปฏิบัติการของ Apple (iOS, iPadOS, macOS, watchOS, และ tvOS) การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายในแอปฯ แต่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานที่พัฒนาขึ้นตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
แล้วอัปเดตครั้งนี้มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง? TODAY Bizview จะมาสรุปฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Apple Music ให้ครบจบผ่านบทความนี้
[ มีแปลภาษาเนื้อเพลงให้ ถ้าฝึกร้องก็มีตัวช่วยออกเสียง ]
เริ่มจากฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจก่อนคือ Lyrics Translation ที่สามารถ “แปลเนื้อเพลง” ให้เป็นภาษาที่ผู้ใช้เข้าใจได้ทันที การแปลนี้ผ่านการปรับแต่งจากผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและวัฒนธรรม เพื่อให้ความหมายและอารมณ์ของเพลงยังคงถูกถ่ายทอดออกมาอย่างครบถ้วนเหมือนต้นฉบับ
นอกจากนี้ ยังมี Lyrics Pronunciation เครื่องมือใหม่ที่ช่วย “ฝึกออกเสียงคำร้อง” ให้ถูกต้องตามหลักภาษา เหมาะกับคนที่อยากร้องเพลงต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ
สำหรับสายคาราโอเกะ ฟีเจอร์ Apple Music Sing ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่เช่นกัน โดยผู้ใช้สามารถปรับระดับเสียงร้องของศิลปินให้กลายเป็นเพลงคาราโอเกะได้ตามต้องการ ด้วยการใช้ iPhone เป็นไมโครโฟน เพื่อขยายเสียงร้องออกทางทีวี และยังรองรับการใช้ Continuity Camera แสดงภาพผู้ร้องขึ้นบนหน้าจอพร้อมเนื้อเพลงและเอฟเฟกต์ภาพสุดเท่ เปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้กลายเป็นเวทีส่วนตัวได้
[ มี AutoMix ช่วยมิกซ์เพลงหนึ่งไปยังอีกเพลงหนึ่ง ]
ในด้านการฟังเพลง Apple เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ AutoMix ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเพลงต่อเนื่องแบบไร้รอยต่อ โดยระบบจะปรับจังหวะและความเร็วของเพลงให้อยู่ในจังหวะเดียวกัน (beat-matching และ time-stretching) เพื่อให้ฟังต่อกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนมีดีเจส่วนตัวมามิกซ์เพลงให้ ฟีเจอร์นี้เหมาะกับการเปิดเพลงยาวๆ ระหว่างทำงานหรือจัดงานสังสรรค์ แต่จะไม่ใช้กับอัลบั้มหรือมิกซ์ที่ถูกออกแบบมาล่วงหน้าแล้ว
อีกหนึ่งการอัปเดตที่ช่วยให้ใช้งานสะดวกขึ้นคือ Library Pins ผู้ใช้สามารถ “ปักหมุด” เพลง เพลย์ลิสต์ ศิลปิน หรืออัลบั้มโปรดไว้ด้านบนของคลังเพลง เพื่อเข้าถึงได้รวดเร็วโดยไม่ต้องเลื่อนหา
ส่วนฟีเจอร์ Replay ก็ถูกพัฒนาให้แสดงข้อมูลการฟังเพลงแบบเรียลไทม์ ผู้ใช้สามารถดูสถิติศิลปิน เพลง หรือเพลย์ลิสต์ที่ฟังบ่อยที่สุดในแต่ละเดือน ผ่านหน้าแรกของแอปโดยไม่ต้องออกไปดูจากเว็บแยกต่างหาก
นอกจากนี้ Apple ยังเพิ่ม วิดเจ็ตใหม่บนหน้าจอหลัก เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงเพลงที่ปักหมุดไว้ได้ทันที พร้อมวิดเจ็ต Live Radio ที่สามารถแตะเพื่อฟังสถานีวิทยุสดของ Apple Music ได้ถึง 6 ช่องอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ในส่วนของภาพและดีไซน์มีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ชื่อ Album Motion ที่ทำให้ภาพปกอัลบั้มเคลื่อนไหวได้บนหน้าจอล็อกของ iPhone เข้ากันกับปุ่มควบคุมเพลงแบบ Liquid Glass มอบประสบการณ์ที่สวยงามและมีชีวิตชีวามากขึ้น
โดยรวมแล้ว การอัปเดต Apple Music ในครั้งนี้เป็นการผสานฟีเจอร์อัจฉริยะเข้ากับการปรับปรุงด้านการออกแบบ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เข้าถึงง่าย เป็นส่วนตัว และมีมิติมากขึ้น
