นายกฯ ไม่เห็นด้วย มติกนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% แต่ไม่สิทธิ์ไปก้าวก่าย นายกฯ น้อมรับข้อเสนอแนะจาก ป.ป.ช. ปม ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ยันเดินหน้าต่อ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50 %ต่อปีว่า ก็ต้องน้องรับ เป็นหน้าที่ของ กนง. เราไม่มีสิทธิ์ เมื่อผลโหวตออกมาแบบนั้นรัฐบาลไปก้าวก่ายไม่ได้ ถ้าถามว่าเห็นด้วยไหม ก็ต้องบอกว่าไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายอยู่แล้ว ทาง กนง. มีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายทางการเงิน อย่างที่ตนและนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ บอกไปเมื่อวานนี้ (6 ก.พ. 67) ว่า เราอยากเห็นนโยบายการเงินการคลังไปด้วยกัน และตอนนี้ก็เงินเฟ้อติดลบ 4 เดือนแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะฝ่าวิกฤติความเห็นต่างได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญในสังคมไทย เราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีประชาชนให้การสนับสนุน แต่ความเห็นต่างเป็นเรื่องที่สังคมต้องยอมรับได้ และความเห็นต่างเราจำเป็นต้องบริหารความคาดหวัง ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และภายใต้กรอบที่ไม่ก้าวร้าวซึ่งกันและกัน ต้องบริหารจัดการกันไป
ส่วนจะเป็นการบีบให้ถอยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีความรู้สึกใดๆ เป็นหน้าที่ที่ต้องบริหารจัดการเรื่องนี้แล้ว
เมื่อถามว่า คาดหวังประชุม กนง. ครั้งต่อไปจะดอกเบี้ยนโยบายลงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องดูตัวเลขไปเรื่อยๆ ตนก็ไม่ได้มีธงว่าต้องลดอะไร แต่ตัวเลขก็ออกมาตลอดเวลา ถ้าตัวเลขบ่งชี้ว่าไม่ต้องลดตนก็จะออกมาบอกความเห็นของตน ก็เห็นต่าง หรือเห็นด้วย หรือเห็นสมควร หรือว่าต้องมีการโน้มน้าว หรือต้องมีการพูดคุยก็ต้องต้องทำต่อไป และว่า มีอุปสรรคก็ต้องแก้ไขกันไปในทุกเรื่อง ไม่ได้เสียกำลังใจหรือท้อถอย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการระดับระดับชาติ เพื่อเตรียมการจัดประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศปี 2569 วันนี้ (7 ก.พ. 67) มีชื่อของนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าร่วมประชุมด้วย แต่นายเศรษฐพุฒิ ส่งตัวแทนเข้าประชุม
นายเศรษฐา ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีข้อเสนอแนะ 8 ข้อ เกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมีการแถลงในวันนี้ว่า ได้มีการอ่านหัวข้อในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการทุจริตนั้น การประชุมคณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการมาดูแลเรื่องทุจริตโดยเฉพาะ และยืนยันทุกอย่างต้องตอบคำถามให้ได้ และรัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะระมัดระวังในเรื่องของการแจกเงินตามข้อเสนอแนะ และมีคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลและมีกลไกที่ชัดเจนในการมาตรวจสอบทุกขั้นตอน และหลังจากนี้ เชื่อว่า คณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ตก็จะทำทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อเสนอแนะ ปปช. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดู เพื่อปกป้องและดูแลผลประโยชน์ของประชาชน รวมถึงภายในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่
ส่วนข้อเสนอแนะ ป.ป.ช. ให้ใช้งบประมาณปกติ แทนการออกพระราชบัญญัติเงินกู้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องรายละเอียดต้องมีการพูดคุยกัน เพราะเพิ่งทราบเรื่องข้อเสนอแนะนี้
เมื่อถามถึงข้อเสนอแนะที่ให้แจกเฉพาะกลุ่มเปาะบางนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูเหตุผลของ ป.ป.ช. ว่ามีเหตุผลอย่างไร เพราะหน้าที่ของป.ป.ช. คือ การป้องกัน การตรวจสอบทุจริตประพฤติมิชอบ ขณะที่นโยบายจะให้ใครได้บ้าง เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องคำนึงถึง แต่พร้อมน้อมรับข้อสังเกตเรื่องการทุจริต เพื่อให้ ป.ป.ช. มีความสบายใจ โดยจะให้มีการตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เห็นว่า การนิยามกลุ่มเปราะบาง หลายคนอาจจะมีความจำเป็น ดังนั้นเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และรัฐบาลนี้ก็น้อมรับที่จะระมัดระวังเรื่องการทุจริต
ส่วนที่ระบุถึงการจะดำเนินการโดยไม่กู้เงิน แต่ท้ายที่สุดแล้วโครงการนี้ต้องกู้นั้น นายเศรษฐา ชี้แจงว่า จะต้องอธิบายให้ได้ และให้เกิดความเข้าใจ โดยจะต้องขอดูข้อสรุปอีกครั้ง
เปิด 8 ข้อเสนอแนะจาก ป.ป.ช. ถึงรัฐบาล ‘เศรษฐา’ ปมแจกเงินหมื่น ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’
กนง.เสียงแตก 5 ต่อ 2 คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี ลดจีดีพีเหลือ 2.5-3%
ภาพปกจาก สำนักโฆษกฯ ทำเนียบรัฐบาล










