‘เพื่อไทย’ รับเรื่อง ‘ไอลอว์’ แนบกว่า 2 แสนชื่อ เสนอคำถามทำประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่

ภาพ เจมส์ วิลสัน/Thai News Pix
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำคณะ ร่วมกันรับหนังสือจากตัวแทนกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ นำโดย iLaw (ไอลอว์) ที่ได้รณรงค์รวบรวมรายชื่อประชาชน จำนวน 205,739 รายชื่อ เสนอให้รัฐบาล ดำเนินการจัดทำประชามติที่นำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยกระบวนการที่ประชาชนมีส่วนร่วม พร้อมนำคำถามประชามติที่ประชาชนเข้าชื่อเสนอมาเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
ไอลอว์ ได้อ้างถึงแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยที่เคยประกาศตอนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหนึ่งในสาระสำคัญคือการเร่งแก้รัฐธรรมนูญโดยการจัดให้มีการทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตั้งแต่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก
แม้ว่ากลุ่มประชาชนจะเห็นนิมิตหมายอันดี และเห็นความตั้งใจของพรรคการเมือง แต่ยังมีความกังวลว่าในการทำประชามติอาจมีการออกแบบคำถามที่มีเงื่อนไข หรือให้บุคคลที่จะยกร่างมาจากประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม อาจจะทำให้ไม่สะท้อนเจตจำนงของประชาชนและไม่นำไปสู่กระบวนการเขียนรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง
โดยรวบรวมรายชื่อประชาชน 205,739 รายชื่อ แนบอ้างอิง เพื่อประสงค์ที่จะเสนอคำถามในการทำประชามติการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ต้องเขียนใหม่ได้ทั้งฉบับ และหากจะมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด โดยอ้างใช้สิทธิตามมาตรา 9 (5) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติปี 2564
ขณะเดียวกันยังอ้างว่าการอ้างอิงจากจำนวนประชาชนที่มากเช่นนี้ เนื่องจากกลุ่มไม่มั่นใจว่า สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะตรวจสอบรายชื่อด้วยความรวดเร็วและเสนอไปยังสำนักงานเลขาธิการ ครม. ได้ทันการประชุม ครม. นัดแรก จึงนำคำถามมายื่นต่อพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อนำสู่การพิจารณาใน ครม.นัดแรก
ทั้งนี้คำถาม ที่เสนอมานั้นระบุว่า “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ว่ารัฐสภาต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะใช้ช่องทางกฎหมายทำประชามติที่ผ่านกระบวนการสภาฯ และขอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีดำเนินการทำประชามติทันทีในการประชุมครั้งแรก หากผ่านได้ก็จะใช้มาตรา 256 แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ส่วนข้อคำถามที่กลุ่มไอลอว์เสนอมา หากมีประโยชน์ก็จะนำไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงหากเป็นคำถามที่ชัดเจนก็จะทำให้คณะรัฐมนตรีทำงานได้ง่ายขึ้น ย้ำ แนวคิดนี้สอดคล้องกับแนวคิดของพรรคเพื่อไทย










