‘ก้าวไกล’ ผิดหวัง ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ขวางสภาฯ ตรวจสอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม พบกำลังพยายามชงเรื่องเข้าครม. หวังฟันส่วนต่าง 68,613 ล้านบาท
นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา “ขอให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติเพื่อส่งความเห็นและข้อเสนอแนะสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มไปให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการ” ซึ่งผลการลงมติเสียงข้างน้อยของฝ่ายค้าน แพ้เสียงข้างมากของฝ่ายรัฐบาลไป 139 ต่อ 190 คะแนน
โดย นายสุรเชษฐ์ รู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจ ลงมติขัดขวางการตรวจสอบด้วยอำนาจนิติบัญญัติของ ส.ส.รัฐบาล ซึ่วจะส่งผลให้ภาษีประชาชนหายไปจากเงินส่วนต่างมากถึง 68,613 ล้านบาท ระบุว่า ตนในนามของผู้เสนอญัตติ ขอขอบคุณทางพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะเรื่องนี้ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมีการพูดคุยในวิปฝ่ายค้านเมื่อวานนี้ จึงเป็นที่มาที่ไปของสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
กรณีรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญ ที่จะส่งผลให้ภาษีประชาชนหายไปจาก “ส่วนต่าง” ของการประมูล 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 68,613 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังรู้สึกเสียดายที่สภาแห่งนี้โดยเสียงข้างมากของ ส.ส.รัฐบาล จงใจที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจสอบโดยสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งข้อเท็จจริงก็ชัดเจน เป็นข่าวอยู่มากมายอย่างกว้างขวางในประเด็นการประมูลโดยมิชอบของรถไฟฟ้าสายสีส้ม
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า มีข้ออ้างจากสมาชิกบางส่วนที่ลงมติไม่เห็นด้วยว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบในชั้นศาล จากคดีที่เอกชนฟ้องร้องกันหลายคดี ตนอยากเรียนว่าเรื่องนี้ต้องพิจารณาว่าอำนาจตุลาการและอำนาจนิติบัญญัติมีความต่างกัน และเดินไปพร้อมๆ กันได้ ไม่ต้องรอให้ทางใดทางหนึ่งจบ เพราะถ้าปล่อยให้มีการเซ็นสัญญากันโดยยังไม่มีความชัดเจนแบบทุกวันนี้ จะกลายเป็นปัญหาผูกพันในอนาคตอย่างน้อย 35 ปี ดังนั้นเรื่องนี้ต้องตรวจสอบคู่ขนานกัน
“การที่สภาเสียงข้างมากเลือกที่จะปฏิเสธไม่ให้พิจารณาในวาระนี้ ทั้งที่วาระต่อๆ ไปเป็นเพียงเรื่องเพื่อทราบ ในขณะที่สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นเรื่องด่วน ที่กำลังมีความพยายามรีบชงเข้า ครม. นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นเร่งด่วนที่เราต้องเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา” นายสุรเชษฐ์กล่าว
นายสุรเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายขอให้ช่วยกันจับตาว่ารถไฟฟ้าสายสีส้ม จะมีการเร่งอนุมัติโดย ครม. ก่อนยุบสภาหรือไม่ เพราะเรากำลังพูดถึงงบประมาณมหาศาล นี่คือเงินส่วนต่าง 68,613 ล้านบาท










