สรุปมติครม.วันนี้ รัฐบาลขอ กกต. อนุมัติงบ 11,112 ล้าน แก้ปัญหาค่าไฟแพง

สรุปมติครม.วันนี้ รัฐบาลขอ กกต. อนุมัติงบ 11,112 ล้าน แก้ปัญหาค่าไฟแพง

การเมือง

‘ค่าไฟฟ้า’ ในหน้าร้อน ปี 2566 หลังประชาชนบ่นอุบ ทำไมปีนี้แพงขึ้นมาก แล้วในที่สุดเมื่อวานนี้ (24 เม.ย. 66) ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ก็ได้มีมติอนุมัติ ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้า ทำให้ค่าไฟตั้งแต่ รอบบิลเดือนพฤษภาคม 2566 จะลดลง 7 สตางค์ต่อหน่วย อยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย (อ่านข่าวนี้ คลิก )

อย่างไรก็ตามล่าสุด ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งปัจจุบันเป็น รัฐบาลรักษาการ ก็ได้มีมติเห็นชอบ เสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขออนุมัติ งบประมาณรวม 11,112 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยสรุปจากการแถลงของนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ดังนี้

1. มาตรการเร่งด่วน ช่วยค่าไฟฟ้า 1 เดือน

– ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า ให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้ฟ้าบ้านอยู่อาศัยในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ

– วงเงินช่วยเหลือจำนวน 150 บาทต่อราย กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ในรอบบิลเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงเดือนที่มีสถิติความต้องการไฟฟ้าสูงสุดของประเทศและจะเริ่มลดลงในเดือนมิถุนายน นี้

– เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท บ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน  500 หน่วยต่อเดือน

ทั้งนี้ในการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าครั้งนี้ จะครอบคลุมประชาชนจำนวน 23.40 ล้านราย โดยใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 3,510 ล้านบาทจากงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต่อไป

2. ขยายมาตรการช่วยกลุ่มเปราะบาง แบบขั้นบันได

– ให้ส่วนลดแบบขั้นบันได แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ

– ขยายเวลาออกไป 4 เดือน งวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม  2566 กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราส่วนลดเดียวกันกับช่วงเดือน มกราคม – เมษายน 2566

– รอบบิลเดือน พ.ค.- ส.ค. 66 (4 เดือน)

2.1 บ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้า 1-150 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย

โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่า Ft เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สตางค์ต่อหน่วย

2.2 บ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้า 151-300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 67.04 สตางค์ต่อหน่วย

โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่า Ft เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์ต่อหน่วย

– คาดจะมีผู้ได้รับการช่วยเหลือ ประมาณ 18.36 ล้านราย

– ใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 7,602 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ ทั้ง 2 มาตรการข้างต้น จะใช้วงเงิน 11,112 ล้านบาท แต่เนื่องจากปัจจุบันอยู่ในห้วงการยุบสภา ครม. จะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ คือ นำเสนอกกต. พิจารณา ให้ความเห็นชอบการใช้งบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 169 (3) กำหนด

ต้องติดตามต่อไปว่า ทางกกต. จะอนุญาตให้ ครม. ดำเนินการตามที่ขอหรือไม่

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง