มติพรรคร่วมฝ่ายค้าน รับหลักการ ร่างแก้รัฐธรรมนูญ ฉบับ Re-solution พร้อมแจง 6 ข้อสำคัญ ‘นพ.ชลน่าน’ ชี้ ถ้า ส.ว. โหวตรับ อาจช่วยปลดชนวนความขัดแย้งทางการเมืองได้

วันที่ 15 พ.ย. 2564 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลประชุมของพรรคร่วมฝ่ายค้าน กรณีร่างแก้รัฐธรรมนูญ ของกลุ่ม Re-solution ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย. 2564) ว่า ที่ประชุมกำหนดเวลาอภิปรายรวม 18 ชั่วโมง (วุฒิสภาหรือส.ว. 5 ชั่วโมง, ส.ส.รัฐบาล 5 ชั่วโมง, ส.ส.ฝ่ายค้าน 5 ชั่วโมง และภาคประชาชนเจ้าของญัตติ 3 ชั่วโมง)
มติพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นเป็นเอกฉันท์ ทุกพรรคเห็นควรรับหลักการในวาระที่ 1 และจะมีเหตุผลประกอบในการอภิปรายรับหลักการ โดยทุกพรรคจะรับหน้าที่ไปในการอภิปราย แต่ละพรรคไปเน้นประเด็นที่แต่ละพรรคสนใจ
โดย 6 ประเด็นสาระสำคัญที่ทำให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า ควรรับหลักการ
- เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ ทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ยกเลิกหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ และ ยกเลิกมาตรา 65 ยุทธศาสตร์ชาติ
- ปรับโครงสร้างระบบสภา จากรัฐสภาเดิมที่มี 2 สภา ให้เหลือสภาเดียว คือ สภาผู้แทนราษฎร
- สร้างกลไกในการตรวจสอบที่ยึดโยงกับอำนาจอธิปไตยของประชาชน เช่น ผู้ตรวจการศาลทหาร ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ
- ปรับหน้าที่ อำนาจ ที่มาของศาลรัฐธรรมนูญ และองค์อิสระ
- ยกเลิกการสืบทอดอำนาจ การคงอยู่ซึ่งอำนาจของผู้ที่เข้าทำการยึดอำนาจทั้งก่อน ปัจจุบัน และสืบทอดอำนาจให้ชอบด้วยบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ คือ ยกเลิกมาตรา 48 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ส่งผลการเขียนต่อเนื่องในมาตรา 279
- หน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เช่น เสียงเห็นชอบจะเพิ่มเป็น 2 ใน 3 ในจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่
“วันที่ 16 พ.ย. ถ้าสมาชิกรัฐสภามีความเห็นร่วมกันรับหลักการ อาจจะเป็นการปลดชนวนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก็เป็นได้” นพ.ชลน่าน กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นว่า มีความจำเป็นที่สภาจะต้องเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 โดยสัปดาห์หน้า จะประชุมเพื่อกำหนดเรื่อง และวางกรอบเวลา
ที่ประชุมยังมีความเห็นร่วมกัน ห่วงใยเหตุการณ์บ้านเมืองอย่างยิ่ง หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย คดีของ 3 แกนนำราษฎร อยากขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องใช้ในสิ่งที่ควรเป็นไปตามหลักนิติธรรม พร้อมห่วงการใช้ความรุนแรง จากเหตุการณ์ชุมนุม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา เรียกร้องทุกฝ่ายได้ใช้เวทีที่ปลอดภัยพูดคุยกัน เบื้องต้นพรรคร่วมฝ่ายค้านจะส่งเรื่องให้กรรมาธิการ การป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน และส่งให้ กรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ ที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล เป็นประธาน ตรวจสอบ










