ปลัด สธ.เผยประกาศเตือนภัยโรคโควิดระดับ 4 ทุกจังหวัด หวังคุมสถานการณ์ให้อยู่ในระดับคงที่ หากไม่ได้ผลต้องมีมาตรการจาก ศบค. ระบุไม่อยากให้ประชาชนหลงลืมแนวทางปฏิบัติตัวป้องกันติดเชื้อโรค
วันที่ 21 ก.พ. 2565 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สธ.ได้ประกาศเตือนภัยโรคโควิด-19 ระดับที่ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ มาระยะหนึ่ง และยังไม่เคยประกาศลดระดับการเตือนภัย เพียงแต่ช่วงก่อนหน้านี้เป็นการแจ้งเตือนในจังหวัดเสี่ยงที่มีรายงานการติดเชื้อโควิด-19 สูง ล่าสุด ขณะนี้ สธ.ได้ประกาศเตือนภัยโควิด-19 ระดับ 4 ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดให้อยู่ในระดับคงที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเตือนภัยระดับ 4 มีข้อกำหนดเรื่องห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ห้ามรวมกลุ่มคนทำกิจกรรมเสี่ยง ในขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) อนุญาตให้สามารถทำได้ในบางพื้นที่ ทำให้เกิดความสับสน นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า การแจ้งเตือนภัยจะมีการระบุสิ่งที่เป็นข้อแนะนำสำหรับประชาชน เป็นการประกาศเตือน แต่ถ้าไม่ได้ผล ก็จะต้องมีมาตรการออกมารองรับ ซึ่งนั่นจะเป็นข้อกำหนดที่ออกโดย ศบค. ดังนั้น เรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ก็ต้องรอที่ ศบค.พิจารณาอีกครั้ง
“ที่เราออกมาเน้นย้ำ เนื่องจากที่เราเคยประกาศเตือนภัยระดับที่ 4 มาระยะหนึ่งแล้ว ประชาชนอาจจะหลงลืมว่าขณะนี้เรายังอยู่ในการเตือนภัยระดับ 4 เหมือนที่หมอให้คนป่วยควบคุมอาหาร ลดหวาน มัน เค็ม แต่พอกลับมาติดตามอาการอีกครั้ง พบว่าสุขภาพยังไม่ดีขึ้น เราก็ต้องเน้นย้ำให้ลดหวาน มัน เค็ม เข้าไปอีก เป็นต้น” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
เมื่อถามว่า สธ.มีการเสนอเพิ่มมาตรการควบคุมป้องกันโรคเพิ่มเติมเข้าที่ประชุม ศบค.วันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้หรือไม่ ปลัด สธ. กล่าวว่า เราไม่ได้จะถอยกลับไปใช้มาตรการเดิม เพราะตอนนี้เตียงรักษาผู้ป่วยยังเพียงพอ อยากให้ดูผู้ป่วยอาการรุนแรงที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เตียงไอซียูทั่วประเทศมีประมาณ 2,000 เตียง ส่วนเตียงที่เห็นว่ามาก ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อาการน้อย อาการสีเขียว แต่เข้าไปอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) จึงทำให้มีอัตราการครองเตียงมาก ทั้งนี้การประชุม ศบค.จะมีการปรับมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ไม่สามารถยืนยัน รับปากอะไรได้ แต่สิ่งที่ยังยืนยันตอนนี้คือ ระบบสาธารณสุขยังสามารถรองรับสถานการณ์ได้
สธ.สั่งการทุกจังหวัดเตรียมพร้อมดูแลผู้ป่วยโควิดทั้ง HI/CI และในรพ.
นอกจากนี้ นพ.เกียรติภูมิ พร้อมด้วยแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต นายแพทย์ภูวเดช สุระโคตร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข และการควบคุมป้องกันโรคโควิด 19 ของจังหวัดเชียงราย พร้อมระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ขณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในวันนี้จึงมีหนังสือสั่งการถึงนายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่ง ให้เตรียมการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19 โดย 1)เตรียมความพร้อมด้านทรัพยากร เตียง บุคลากรทางการแพทย์ และระบบการดูแลรักษาแบบ Home Isolation (HI) Community Isolation (CI) รวมทั้งการรับผู้ป่วยที่มีอาการมาก/รุนแรงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 2)ประชาสัมพันธ์หมายเลขโทรศัพท์ของ จังหวัดและโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อให้ผู้ป่วยมั่นใจในการเข้าถึงระบบบริการ 3) เร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เพื่อป้องกันควบคุมการแพร่ระบาด และลดความรุนแรงจากการติดเชื้อ 4) สื่อสารให้ประชาชนป้องกันตนเองและครอบครัวด้วยมาตรการ Universal Prevention และ VUCA พร้อมสร้างการรับรู้การดูแลรักษาผู้ป่วยจากการติดเชื้อ เพื่อให้สามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้
สำหรับสถานการณ์โรคโควิด 19 ของจังหวัดเชียงราย พบว่ามีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับที่ดูแลได้ เป็นไปตามภาพรวมของประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ใน อำเภอเมือง อำเภอแม่สาย และอำเภอแม่จัน หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ดำเนินการควบคุมป้องกันโรคตามแนวทางที่กำหนด โดยเน้นการตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ ATK และนำผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านและในชุมชน (HI/CI) ทั้งนี้ หากภาครัฐและประชาชนร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เชื่อว่าโรคโควิด 19 จะลดความรุนแรงลง และเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) ในที่สุด ทำให้ประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้ และประชาชนได้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติมากขึ้น










